วันนี้ออนได้มีโอกาสเป็นแขกรับเชิญใน Blog พิเศษ ที่ทำร่วมกับ UNBOX BKK ซึ่งออนอยากจะมาแนะนำตัวเองเพิ่มเติมกัน
สักเล็กน้อย สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นกับตัวออน หรือยังไม่รู้จักกัน
แนะนำตัวคร่าวๆ
ออน-ชัญญภัส ศรีไพศาล เป็น Beauty Blogger มาประมาณ 14 ปีแล้วค่ะ เรียกว่าเริ่มเขียน Review ต่างๆมาตั้งแต่ช่วงอายุ 15 เลย ถ้าย้อนไปสมัยตอนนั้น ออนคิดว่าคนไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าบล็อกเกอร์ (Blogger) หรือ Influencer คืออะไร ทำหน้าที่อย่างไร แต่ด้วยความที่ใจรักการลองเครื่องสำอาง สกินแคร์ต่างๆ จึงชอบที่จะซื้อสินค้าหลายๆอย่างมาลอง และได้เริ่มเขียนแชร์ความรู้สึกต่างๆที่มีต่อเครื่องสำอางไอเทมนั้นๆ ลงช่องทาง Online อย่าง Pantip และ Jeban และเขยิบมาเป็น Platform อื่นๆ เริ่มมีการทำเว็บไซต์ของตัวเอง ตามมาด้วย Facebook, Instagram และ YouTube ในปัจจุบัน
สมัยออนอยู่ออสเตรเลีย เด็ก Asian Born หรือเด็กที่เป็นคนเอเซียแต่เกิดที่นั่นจะฮิตเติมคำว่า Baby กับชื่อตัวเอง เช่น BabyJessica หรือ JenniferBaby และด้วยความที่ออนชอบ Hang out กับเพื่อนพวกนั้น ออนเลยเติมคำว่า Onnbaby มา และใช้ชื่อนี้มาถึงทุกวันนี้
เส้นทางของ Beauty Blogger ที่ชื่อ Onnbaby
การเขียนบล็อกของออนจะไม่ค่อยต่อเนื่องในช่วงแรก เริ่มจากตอนไปเรียน High School ที่ต่างประเทศ เพราะตอนนั้นรู้สึกว่าอยากใช้ชีวิตที่ต่างประเทศให้เต็มที่ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ความสนุก เพื่อนใหม่ สังคมใหม่ รวมถึงสิ่งแวดล้อมใหม่ๆให้ได้มากที่สุด จนกระทั่งกลับมาเรียนต่อที่ไทย จึงเป็นช่วงที่ออนกลับมาเขียน Blog จริงจังอีกครั้ง จนถึงช่วงปี 4 ที่ออนคิดว่าอยากทำอะไรสักอย่างเป็นของตัวเอง คิดวนไปวนมา และสรุปได้ว่า การทำงานออฟฟิศไม่ใช่ทาง จึงเริ่มคิดอยากทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นอะไรที่ออนชอบและถนัด
ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการเริ่มทำแบรนด์ Flawless Me แบรนด์สกินแคร์-เครื่องสำอางที่ออนได้ร่วมคิดค้น พัฒนา และทดลองร่วมกับทาง Lab และทีม R&D โดยใช้เวลาเกือบ 1 ปี จนออกมาเป็นรูปเป็นร่างที่ได้ดั่งใจ เรียกว่าลองผิดลองถูกเยอะมาก กว่าจะได้ออกขาย ระหว่างนั้นออนต้องไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพอดี ซึ่งช่วงไปเรียนต่อออนก็ยังดูแลการผลิตควบคู่กับการเรียนไปด้วย โชคดีที่มีคุณแม่และพี่ผู้ช่วยมาดูแลเพิ่มเติมให้
หลังจากที่ออนกลับมาจากเรียนต่อ ก็ได้ร่วมทำแบรนด์ขนตาปลอมกับแบรนด์ NessyChoice แบรนด์ขนตาปลอมชั้นนำของคนไทย ซึ่งเจ้าของเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกัน ออนทำแบรนด์แยกออกมาในนาม OnnbabyLashes ดังนั้น 2 แบรนด์นี้จึงเป็น 2 ธุรกิจหลักของออนที่ออนทำตั้งแต่ช่วงก่อนเรียนจบปริญญาตรี จนถึงเรียนจบปริญญาตรี ไปเรียนต่อปริญญาโท และกลับมาจากเรียนต่อนั่นเอง
Beauty Blogger กับการทำธุรกิจ
ส่วนตัวออนไม่เคยรู้ว่าความจริงแล้วทำไมจึงอยากเป็น Beauty Blogger เพราะตอนนั้นไม่ได้คิดว่าอยากจะเป็น แต่แค่เพราะใจรักในความสวยความงาม ชอบซื้อ ชอบลอง เก็บเงินมาซื้อของใหม่ๆ และอยากแบ่งปัน เขียน Review เพื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ออนชอบดู Review ของบล็อกเกอร์ต่างประเทศประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องสำอางและสกินแคร์ ดังนั้นออนคิดว่าสิ่งนี้เป็นธรรมชาติของเราที่ชอบ ที่อยากทำ เป็น Passion และออนก็ทำให้มันเกิดขึ้นด้วยตัวเองโดยไม่ได้มานั่งคิดว่าจะต้องเป็นที่ใครอยากให้เป็น
เช่นเดียวกับการเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง เมื่อออนรู้ว่าออนชอบด้านความสวยความงาม และไม่ถนัดงานออฟฟิศ การทำแบรนด์ในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัดน่าจะตอบโจทย์ที่สุด เพราะออนเชื่อเสมอว่า ถ้าเรารักในการทำอะไร ไม่ว่าจะวันไหนๆ เวลาไหนๆ เราก็จะมีความสุขกับมัน
Social Media กับการทำธุรกิจ
แน่นอนว่าในยุคสมัยนี้ การสร้างแบรนด์ของตัวเอง การขายของมีความสะดวกสบายขึ้นมากๆ เพราะมีสิ่งที่ชื่อว่า Social Media และ Digital Marketing เข้ามาช่วยเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างผู้ค้าขายกับผู้ซื้อ ทำให้ได้รับการมองเห็นชัดขึ้น เสมือนเป็นการค้าขาย โฆษณาขายแบบเปิดกว้างให้ทุกคนได้รู้จักกัน ดังนั้นบอกเลยว่า Social Media มีความสำคัญมากในการช่วยดันแบรนด์ ดันธุรกิจต่างๆ ให้ได้เป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่บางธุรกิจก็มียอดขายถล่มทลายเป็นร้อยล้าน พันล้านกันเลย
ออนอาจจะโชคดีตรงที่ออนมีฐานผู้ติดตาม (Fans และ Followers) อยู่บ้าง ทำให้เวลาที่ออนลงขายสินค้าอะไร เปิดตัวธุรกิจอะไร ก็มักได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หลายๆคนให้กำลังใจ และรอซื้อ เรียกว่าเป็นกำลังใจที่สำคัญของออนมาก ดังนั้นถ้าหากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ออนขอแนะนำว่าควรสร้างฐานผู้ติดตามควบคู่กันไปด้วย ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เจ้าของธุรกิจหรือแบรนด์ควรมีการทำกิจกรรมกับผู้ที่ติดตาม เช่น เล่นเกมส์แจกของ, ให้แสดงความคิดเห็น, หรือแนะนำเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าของเรา สิ่งนี้จะช่วยให้เกิดความรู้สึกดีๆ ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกว่าแบรนด์ของเราจับต้องได้ และเกิดความสัมพันธ์ที่สามารถพัฒนาต่อยอดในทางต่างๆได้เยอะมาก อย่างน้อยที่สุดก็เป็นลูกค้าของเรา!
สื่อ Digital ที่คุ้นเคย และได้เรียนรู้อะไรบ้าง
ถ้าพูดถึง Digital Media ที่ออนใช้บ่อยสุดคงหนีไม่พ้น Instagram และ Facebook เรียกว่าเป็นช่องทางการเล่น การขายที่ใช้มาตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และออนรู้สึกว่าออนแทบไม่เจอปัญหาจากการใช้งานทั้ง 2 Platform นี้เลย จะมีแค่เวลาที่ระบบของทาง Platform เองล่มนานๆที มีการปรับเปลี่ยนอะไรต่างๆ แต่นอกเหนือจากนั้น เรียกว่าไม่มีปัญหาเลยค่ะ ส่วน YouTube ไม่ใช่ว่าออนไม่ใช้เลย มีการอัพโหลดคลิปวีดีโอบ้างอยู่เรื่อยๆ แต่พูดตรงๆคือไม่ชอบ เพราะออนโตมากับยุคที่ใช้การเขียนเป็นหลัก ใช้ Platform ที่เน้นการเขียน เช่น Storythai, Diaryhub, Pantip
เมื่อ Onnbaby เป็นที่รู้จักในระดับหนึ่ง แน่นอนว่าจะต้องมี Sponsor เข้ามา หรือที่เรียกกันว่า Sponsored Content จากแบรนด์ต่างๆ ในหลายๆรูปแบบ เช่น เรียนเชิญไปร่วมงานเปิดตัวสินค้า, ส่งสินค้ามาให้ทดลองใช้และ Review, เรียนเชิญไปที่ร้าน ทำให้ออนได้เรียนรู้และพัฒนาความรู้เรื่องการใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้น เช่นการใช้ # (Hashtag) ใน Instagram มีผลอย่างมากในการสร้าง Viral Content ของแบรนด์, ต้องโพสต์เวลาไหนคนจึงจะเห็นเยอะที่สุด, การเขียนบล็อกและใช้ Keyword เพื่อทำ SEO หรือแม้กระทั่งการทำ Facebook Ad ที่ไม่ใช่แค่การกด Boost Post แต่ต้องเลือก Targeting ให้ถูกต้อง ออนต้องบอกเลยว่าออนได้พัฒนาทักษะด้าน Digital Marketing จากการทำงานกับแบรนด์เยอะมาก ออนให้ความสำคัญกับทุกแบรนด์และทุกงาน ขอขอบคุณ Sponsor ทุกท่านที่ให้เกียรติออนด้วยนะคะ
ท้ายสุดนี้ ใครที่อยากสร้างแบรนด์ หรือมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ต้องบอกว่า Social Media และการทำการตลาดดิจิทัลมีความสำคัญมากจริงๆ เพราะเป็นช่องทางที่ทำให้เราได้ขายของ สร้างรายได้แบบฟรีๆ กัน ยิ่งถ้าเราหัดที่จะเรียนรู้ ทำความรู้จักกับ Platform ที่เราใช้ขายกับลูกค้าเรามากขึ้นเท่าไร เราก็จะยิ่งเข้าใจกลไกการทำงานต่างๆมากขึ้นเท่านั้น และทุกอย่างคือประโยชน์ของเราทั้งหมด และอีกข้อที่อยากเน้นย้ำไว้เสมอว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป บางสิ่งที่ทำอาจจะไม่ได้เห็นผลในวันนี้ แต่เชื่อออนเถอะว่าถ้าเราตั้งใจ ขยัน หมั่นเพียร เราจะเห็นผลลัพธ์ที่เราทุ่มเทและตั้งใจแน่นอนค่ะ
ขอให้ผู้อ่านได้รับแรงบันดาลใจในการใช้สื่อดิจิทัลในการทำธุรกิจ หรือสร้าง Content ของตัวเองกันนะคะ 😊