“ควีนส์ บัวลอย บรรทัดทอง” เปิดกิจการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ไม่ทันไรก็ต้องเจอกับวิกฤต COVID-19 เสียแล้ว
แต่แม้เป็นน้องใหม่ก็ยังคงยืนหยัดอยู่จน Lockdown ผ่านไปเฟสแล้วเฟสเล่า มาถึงวันนี้ ทางร้านขยายจากการขายขนมผ่านหน้าร้านและบริการเดลิเวอรี่ ไปสู่รับออกร้านตามงานอีเว้นท์ซึ่งบอกได้ว่าคิวออกงานของพวกเขากำลังเต็มไปยาว ๆ
อะไรคือเคล็ดลับของความอยู่รอดและเติบโตในช่วงเวลาอันยากลำบากของร้านขนมนี้ วันนี้ UNBOX BKK ขอนำบทสัมภาษณ์เจ้าของกิจการมาเล่าสู่กันฟังครับ
รู้จักกับ ควีนส์ บัวลอย บรรทัดทอง สักเล็กน้อย
– กิจการ Franchise นี้เริ่มต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเจ้าของกิจการไม่สามารถหาบัวลอยรับประทานได้ในต่างแดนจึงลงมือทำเอง โดยส่งวัตถุดิบหลักไปจากประเทศไทย ร้านใช้ชื่อ “ควีนส์ บัวลอย” เนื่องจากอยู่ในเขต Queens เมืองมหานครนิวยอร์ก ซึ่งในสังคมคนไทยในเขต Queens แล้ว เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักควีนส์ บัวลอย
– จากความนิยมในนิวยอร์ก ทำให้เจ้าของตัดสินใจนำแบรนด์กลับมาเปิดในประเทศไทย โดยใช้ชื่อและโลโก้เดิม
– คุณธนัชญา มานะสมจิตร หรือคุณแอน ได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนซื้อแฟรนไชส์มาจากต้นสาขา โดยลงมือบริหารเองทุกอย่าง
– เนื่องจากย่านบรรทัดทองมีลูกค้าหลายหลายและเต็มไปด้วยร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ด คุณแอนจึงขอต้นแฟรนไชส์เพิ่มเมนูน้ำแข็งใสหลายชนิด เพื่อขยายช่องทางการขายสำหรับสาขาบรรทัดทองเป็นพิเศษ
– คุณแอนเป็นสาวนักบริหาร แต่เดิมทำงานบริหารค่ายมวยและกิจการขายส่งวัสดุก่อสร้างของที่บ้านอยู่แล้ว ด้วยความชอบทานบัวลอย จึงหันมาเปิดร้านบัวลอยของตัวเอง
(เมนูของร้านควีนส์ บัวลอย)
อย่างไรก็ดี การสร้างธุรกิจร้านขนมที่อยู่ได้แม้แต่ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด จะเปิดโดยอาศัยแต่ความชอบกินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคิดให้รอบด้านด้วย คุณแอนให้ข้อสังเกตว่า ร้านขนมของเธอไปรอดได้ด้วย ปัจจัยดังต่อไปนี้ :
1. เมื่อคิดจะเริ่มกิจการแล้ว คำถามสำคัญซึ่งหลายคนมักจะมองข้ามไป คือ ถ้าเปิดกิจการแล้ว กิจการของเราสามารถทนขาดทุนได้นานแค่ไหน? คุณแอนคิดถึงค่าใช้จ่ายและสิ่งที่ทำให้ขาดทุนก่อนผลกำไร นั่นทำให้ทางร้านพร้อมรับสถานการณ์ขาดทุนไว้อยู่แล้ว ตั้งแต่ช่วงที่ยังไม่เกิดวิกฤต โดยมีเงินสดเก็บไว้สำหรับดำเนินกิจการ แม้แต่ในช่วงที่ได้กำไรน้อยลงจนถึงไม่มีเลย ร้านก็ยังต้องเปิดให้บริการต่อไปได้ หรือถ้าเป็นภาษาพูดก็คือ “สายป่านต้องยาว”
2. “เรียนรู้ไว ปรับตัวไว” ซึ่งไม่ได้มีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษ ใครใครก็ทำได้ไม่ต้องมีพรสวรรค์ คือ เมื่อมีปัญหา เจ้าของกิจการต้องมองหาช่องทางใหม่ให้ไว ในตอนแรกคุณแอนตั้งใจว่าจะมียอดขายจากหน้าร้าน 80% และจากเดลิเวอรี่ 20% เนื่องจากสู้ค่าคอมมิชชั่นของแพลตฟอร์ม Food Delivery ไม่ไหว แต่เมื่อไม่สามารถขายผ่านหน้าร้านได้ ต้องพึ่งออนไลน์เท่านั้น ก็ต้องทำ แม้จะแทบไม่ได้กำไรเลยก็ตาม
(เข้าร่วมโปรโมชั่นกับแพลตฟอร์มการส่งอาหารทั้งหมด)
เมื่อเกิดสถานการณ์ COVID-19 ควีนส์ บัวลอย บรรทัดทอง เร่งทำ Facebook, Instagram และ LINE Official ซึ่งทางร้าน Active บนโลกออนไลน์มาก มีคนดูแลการตอบเพจ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งขนมกับทางร้านได้อย่างราบรื่น พร้อมทั้งเข้าร่วมโปรโมชั่นกับแพลตฟอร์ม Food Delivery ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น GET, GRAB, LINE MAN หรือ Food Panda โดยเลือกทำโปรโมชั่นกับแต่ละแพลตฟอร์มอย่างรอบคอบ ให้ได้ความคุ้มค่าที่สุด
ค่าการตลาดและโฆษณา แผ่นป้ายและโบรชัวร์ก็โยกมาลงทุนกับการทำโฆษณาออนไลน์เต็มตัว ให้ร้านอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้าในช่วงที่มี Social Distancing มากเท่าที่จะมากได้
3. “ติดตามเทรนด์” สร้างเมนูและบริการที่สอดคล้องกับสถานการณ์ คุณแอนสำรวจพบว่าในช่วง COVID-19 ลูกค้าโดยเฉพาะคนในละแวกบรรทัดทอง ชอบทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน จึงออกเมนู “บัวลอย DIY” มา เป็นเซ็ตบัวลอยแช่แข็งที่ลูกค้าซื้อไปอุ่นร้อนที่บ้านตามคำแนะนำก็ได้ความอร่อยเหมือนรับประทานที่ร้าน ซึ่งปกติบัวลอยที่ทางร้านอุ่นร้อนให้ตั้งแต่แรกจะเก็บไว้รับประทานได้ประมาณ 7 วัน ถ้าเก็บในช่องฟรีซตู้เย็น แต่บัวลอย DIY สามารถเก็บในได้นานถึง 2 สัปดาห์ จึงเหมาะกับพฤติกรรมที่ผู้คนตุนวัตถุดิบและอาหารไว้ที่บ้าน และนาน ๆ ออกจากบ้านสักครั้ง
(เมนูบัวลอยทุเรียนหมอนทอง)
นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่ทางร้านจัดเตรียมสะดวกไม่วุ่นวาย ลูกค้าแวะรับก็ง่าย จะรับด้วยตัวเองก็ดีหรือส่งผ่าน Food Delivery ก็ได้ “บัวลอย DIY” จึงเป็นเมนูที่ขายดีมากในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด โดยทั้งเซ็ตราคาเพียง 169 บาท ปรุงรับประทานเองที่บ้านได้ไม่ยาก ได้ความอร่อยหลากหลายเต็มที่เหมือนนั่งรับประทานที่ร้าน
4. จ้างพนักงานทั้งแบบ Full-Time และ Part-Time จึงลดต้นทุนด้านค่าจ้างได้ทันทีที่ปริมาณงานมีน้อยลง เพราะพนักงาน Part-Time เป็นกลุ่มที่หยุดงานได้โดยที่พวกเขาไม่ลำบาก
5. ไม่ว่าในธุรกิจไหน Connection เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ก็ยังมีญาติมิตรช่วยอุดหนุน อีกทั้งยังช่วยบอกปากต่อปาก ทำให้เมนูของควีนส์ บัวลอย บรรทัดทอง ไปถึงมือของเหล่า Food Bloggers และ Influencers ในที่สุด
ที่มาความอร่อย ของ ควีนส์ บัวลอย บรรทัดทอง
คุณแอนเลือกบัวลอยจากสูตรที่ได้รสชาติบัวลอยแบบดั้งเดิม ทำอย่างพิถีพิถันปั้นลูกต่อลูกด้วยมือ ใช้แป้งธัญพืชซึ่งดีต่อสุขภาพ หากสังเกตดูแล้วบัวลอยแต่ละลูกจะมีสีไม่สม่ำเสมอ เพราะเป็นสีธรรมชาติจากวัตถุดิบที่ใช้ปั้น อาทิ ฟักทอง มันม่วง โดยไม่เจือสีผสมอาหาร ได้รสหวานน้อยจากธรรมชาติ น้ำกะทิใช้น้ำมะพร้าวต้ม เคี่ยวจนข้น ได้กลิ่นหอมของส่วนผสมทั้งจากตัวบัวลอยและน้ำกะทิ นอกจากนี้ ท็อปปิ้งหลักทั้งหมด ไม่ว่าทับทิมกรอบ ไปจนถึงไอศกรีมกะทิมะพร้าวอ่อน ก็ล้วนเป็นขนม Home Made ที่ร้านปรุงปั้นเองทั้งหมดให้ได้รสชาติเฉพาะตัวของควีนส์ บัวลอย บรรทัดทอง
(เมื่อร้านควีนส์ บัวลอย จัดงานนอกสถานที่)
เมื่อเลือกเปิดร้านขนมบนถนนบรรทัดทองที่เป็นเหมือนเยาวราช 2 แล้ว ก็ต้องเข้าใจการบริหารร้านแบบสตรีทฟู้ดด้วย เพราะเส้นบรรทัดทองไม่มีที่จอดรถหรือเรียกว่าหาที่จอดรถยากมาก คนที่มาที่นี่ต้องเป็นคนที่รักการกินอย่างแท้จริง คุณแอนจึงเลือกทำ Display ลงรายละเอียดกับการตกแต่งขนม เพื่อให้คนที่ตั้งใจเดินทางมาที่ร้านได้รับประสบการณ์ที่ดีคุ้มค่ากับการเดินทางด้วย เมนูยอดนิยมที่แทบทุกโต๊ะต้องสั่ง คือ “บัวลอยหม้อไฟ” ซึ่งจัดเสิร์ฟในหม้อไฟมาแหวกแนวไม่ซ้ำร้านไหน มาพร้อมไอศกรีมต่างหาก ทำให้ไม่ว่าชอบกินบัวลอยร้อนหรือเย็นก็ถูกใจแน่นอน และยังมีท็อปปิ้งแบบบรรทัดทองทั้ง 10 เมนู ไข่หวาน ไข่เค็ม ไอศกรีมกะทิมะพร้าวอ่อน และอื่น ๆ ครบทุกความอร่อยของควีนส์ บัวลอย ในราคาเซ็ตละ 169 บาทเท่านั้น
ปัจจุบันทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ ตั้งแต่ 50 ถ้วยขึ้นไป แบบยกกระทะไปเคี่ยวให้ถึงที่ ให้ทุกท่านได้รับประทานบัวลอยร้อนๆ นุ่มนวล และสดใหม่
สำหรับคุณแอน ตัวเองเป็นคนชอบของกินที่อร่อยได้ง่ายๆ ไม่ต้องคิดเยอะ กินได้ทุกที่ เชื่อว่าแนวคิดนี้ก็คงสะท้อนออกมาในเมนูของควีนส์ บัวลอย บรรทัดทองด้วยเช่นกัน
Contributor
Karn Triamsiriworakul
Learned about reasoning from the school of law but landed job in marketing field to work toward his interest in art and psychology.