(บทความนี้แปลและดัดแปลงจากต้นฉบับภาษาอังกฤษที่เขียนโดย Kevin Collier เผยแพร่ผ่านเวปไซต์ CNBC วันที่ 8 สิงหาคม 2020)
เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งห้ามชาวอเมริกันใช้ WeChat แอปพลิเคชั่นแชทยอดนิยมในจีน โดยจะให้มีผลในเดือนกันยายนนี้ แต่คนจีนบางส่วนเริ่มได้เปลี่ยนไปใช้แอปฯ สัญชาติอเมริกันที่ขึ้นชื่อเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวแล้วเรียบร้อย
Signal แอปพลิเคชันสำหรับส่งข้อความที่ขึ้นชื่อเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัว และได้รับการยอมรับว่าเป็นแอปที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน กำลังมียอดดาวน์โหลดที่พุ่งขึ้นสูงในประเทศจีน โฆษกของแอปฯ กล่าว
รัฐบาลจีนควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศอย่างเข้มงวด โดยให้ประชาชนส่วนใหญ่ใช้ WeChat ซึ่งเป็นแอปฯ อเนกประสงค์ที่ให้บริการหลากหลาย ทั้งส่งข้อความ เล่นเกมส์ แชร์เรื่องการขนส่ง และอื่นๆ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ WeChat อาจจะแชร์ข้อมูลของผู้ใช้งานไปยังรัฐบาลจีน จึงได้ลงนามออกคำสั่งห้ามบุคคลและบริษัทในสหรัฐฯ เข้าร่วม “ธุรกรรมใดๆ” กับแอป WeChat ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2020 เป็นต้นไป
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าคำสั่งนี้จะจำกัดการเข้าถึงแอปฯ ของบริษัทในสหรัฐฯ หรือไม่ แต่คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะห้ามบริษัทเทคโนโลยีจากจีนดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ
Great Firewall ของจีนเป็นระบบเซ็นเซอร์ที่จำกัดไม่ให้ประชาชนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้อย่างอิสระ และแบนไม่ให้ประชาชนเข้าถึงโปรแกรมแชทชื่อดังจากตะวันตกได้โดยง่าย ถึงแม้ว่าชาวอเมริกันจำนวนน้อยกว่ามากที่ใช้แอป WeChat แต่การแบนของประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้จะกีดกันไม่ให้ผู้ใช้งานแอปสามารถสื่อสารกับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้ร่วมธุรกิจในประเทศจีนได้
อย่างไรก็ดี แอป Signal ยังไม่ได้ถูกบล็อกโดยระบบ Great Firewall ทั้งการใช้งานด้วย iPhone ผ่าน App Store หรือ Android ผ่านการดาวน์โหลดโดยตรงจากเว็บไซต์ของ Signal (เพราะ Play Store ของ Google ได้ถูกบล็อกแล้ว)
“จริงๆ แล้วเรายังไม่ได้ถูกแบนในประเทศจีน” คุณ Jun Harada โฆษกของ Signal กล่าว
ถึงแม้ว่านโยบายด้านการป้องกันข้อมูลของแอปฯ จะทำให้ทางบริษัทไม่สามารถเปิดเผยยอดดาวน์โหลดที่แท้จริงได้ แต่คุณ Jun Harada ก็ได้กล่าวถึงลักษณะการดาวน์โหลดในจีนที่เริ่มพุ่งขึ้นสูงในไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ทรัมป์จะประกาศห้ามใช้งานแอปฯ “ยอดดาวน์โหลดน่าจะกำลังเทียบเท่า หรือไม่ก็สูงกว่าตอนที่แอปฯ ขึ้นอันดับ 1 ของ App Store ในฮ่องกง” คุณ Jun Harada พูดถึงยอดดาวน์โหลดแอป Signal ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนกรกฎาคม เมื่อประเทศจีนเริ่มใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติซึ่งเพิ่มอำนาจให้แก่รัฐบาลฮ่องกงในการปราบปรามการประท้วง
“เราคิดว่ามันช่วยให้แอปของเรากลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นในประเทศจีน ซึ่งรวมถึงกลุ่มชาวจีนที่พลัดถิ่นด้วย” คุณ Harada กล่าวเพิ่มเติม
ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวให้คะแนนแอปฯ Signal สูง เนื่องจากแอปฯ มีการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเพียงเล็กน้อย และข้อความของที่ถูกส่งผ่านแอปยังเป็นแบบแบบเข้ารหัส (Encrypted) ทั้งสองทาง นั่นหมายความว่ารัฐบาลที่พยายามดักข้อมูลระหว่างทางจะไม่สามารถเห็นอะไรนอกจากรหัสเท่านั้น
Yaqui Wang นักวิจัยชาวจีนจาก Human Rights Watch กล่าวว่าเธอใช้ Signal สื่อสารกับผู้คนในประเทศจีนมานานแล้ว และเธอยังเตือนว่ารัฐบาลจีนอาจจะเริ่มปิดกั้น Signal หากการใช้งานของแอปฯ เข้าตาหน่วยเซ็นเซอร์ของจีน ซึ่งจะทำให้การสื่อสารโดยตรงระหว่างผู้คนในสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นเรื่องยากขึ้น
“ทางการจีนสามารถปิดกั้น Signal ได้หากความนิยมของแอปฯ พุ่งสูงขึ้นเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับ WhatsApp และ Telegram” Wang กล่าว “การแยกส่วนของอินเตอร์เน็ต การก่อตัวของข้อมูลและการสื่อสารในสองจักรวาลคู่ขนานนั้นมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ”
Contributor
Pol.Lt.Pichapen Sorum, Ph.D.
Pichapen is specialized in fields ranging from Public Policy to Content Marketing and Social Media Advertising. She’s experienced in working with both Government entities, and Start-Ups through the last decade. She’s also worked in translation, transcreation & copywriting for over 15 years and was positioned as a magazine editor for an online magazine before moving to FinTech. Pichapen is now working as a marketing manager for a Singaporean Start-Up, based in Thailand.
