อีเวนต์สายบันเทิงที่ฮ็อตที่สุดในช่วงเดือนกันยายนนี้ คงหนีไม่พ้นการประกวดนางงามจากสองเวทีหลักของประเทศไทย คือ Miss Universe Thailand และ Miss Grand Thailand ซึ่งปีนี้นับเป็นปีทองที่ทั้งสองเวทีได้ลุยการใช้สื่อดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ UNBOX BKK จึงขอชวนผู้อ่านมาถอดกลยุทธเวทีนางงามทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งมีทั้งข้อเหมือนและข้อแตกต่างไปตาม Positioning ของเวทีตนเอง พร้อมทั้งเกร็ดเบื้องลึกเบื้องหลังที่ผู้เขียนได้สังเกตการณ์และลงไปสัมผัสกับ Community แฟนนางงามตั้งแต่เริ่มกิจกรรมในปีนี้
1. Live ทุกสถานการณ์ ตามติดทุกกิจกรรมแบบเรียลไทม์
กิจกรรมออนไลน์ที่เด่นที่สุดทั้ง 2 เวทีนั้นคือการ Live ให้แฟนนางงามได้ตามติดกิจกรรมของกองประกวดอย่างใกล้ชิด แต่หากจะวิเคราะห์กลยุทธที่แตกต่างแล้วนั้น
1.1 Miss Grand Thailand
มีกลยุทธการ Live ที่เน้นความเข้าถึงคนทุกกลุ่ม ความสด ความบ่อย ความเรียลของสถานการณ์ โดย Miss Grand นั้นมีข้อดีที่มีตัวแทนผู้จัดประกวดอยู่ทุกจังหวัดในประเทศไทย และทุกๆครั้งที่มีการประกวดในระดับจังหวัด ก็จะมีการ Live ออกอากาศเสมอ ทำให้ฐานแฟนนางงามของ Miss Grand ทั่วประเทศนั้นแข็งแรง และเกิดการรวมศูนย์ที่ Official Page หลักอย่างเป็นทางการ
สำหรับด้านความบ่อยและความเรียลนั้น Miss Grand ถือคติการ Live ในทุกๆอิริยาบถ เพื่อให้คนดูใกล้ชิดนางงามอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด อย่างช่วงการเก็บตัวที่จังหวัดเชียงรายนั้น แม้การเที่ยวชมสถานที่ หรือการรับประทานอาหารก็มีการ Live ลง Official Page
Miss Grand Thailand Live แม้กระทั่งช่วงพักรับประทานอาหารของผู้เข้าประกวด ทำให้แฟนคลับได้รู้สึกเหมือนเข้าไปนั่งเม้าท์ไป รับประทานอาหารไปกับนางงามได้จริง
การ Live ของ Miss Grand Thailand นั้นจึงมีเจตนาที่ชัดเจนในการสร้างกระแสและเกิด Conversation ในหมู่แฟนนางงาม เช่นการ Live “เรื่องหลังบ้าน” อย่างการที่ผู้บริหารคอมเม้นต์น้องๆตรงๆหลังกิจกรรมต่างๆ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึง Feedback ต่างๆ จากกองประกวดถึงน้องๆ หรือสิ่งที่ฮือฮาที่สุดคือการ Live รอบห้องดำ ที่แม้บทสนทนาในห้องจะถูกปิดเสียงไว้ แต่ก็ยังถ่ายทอดภาพบรรยากาศจริงให้แฟนนางงามได้คาดเดาคำพูดที่เกิดขึ้น คาดเดาสีหน้าต่างๆของผู้เข้าประกวด จนถึงบ้างครั้งถึงกับคำนวนจำนวนนาทีนางงามคนต่างๆว่าใครได้รับ airtime มากกว่าใครบ้าง
Miss Grand Thailand Live การสัมภาษณ์นางงามแบบปิดเสียง สร้างความอยากรู้อยากเห็น และคาดเดา Conversation ในหมู่ผู้ชมนางงาม
1.2 Miss Universe Thailand
ปีนี้มีกลยุทธการ Live ที่คู่ขนานไปกับสปอนเซอร์หลักอย่าง True 5G โดยทาง True ได้สนับสนุนสัญญาณต่างๆ และ Facility ต่างๆภายในเครือธุรกิจ ทำให้ภาพลักษณ์การ Live ของ Miss Universe Thailand ในครั้งนี้มีภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ มีความทันสมัย และมีเทคโนโลยีที่รองรับอย่างเสถียร โดยทางกองประกวดได้เน้นการ Live ในกิจกรรมสำคัญหลักๆอย่างรอบการเปิดตัว การคัดเลือกต่างๆ และมีการกำหนดแบบแผน การประกาศต่างๆล่วงหน้าที่ค่อนข้างชัดเจนกว่าอีกเวทีหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้แฟนนางงามสามารถวางแผนเวลา และเกิด Conversation ที่ Real time ได้ตามเวลานัดหมาย
นอกไปจากการ Live ใน Official Facebook Fan Page แล้ว ทางกองประกวดยัง มีช่องทางการรับชมแบบ Exclusive ผ่าน TrueID ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้าง Engagement ของแฟนนางงามเข้าสู่ Platform ของทาง True อย่างรอบเปิดตัวผู้เข้าประกวด 30 คนสุดท้ายนั้นก็ใช้ TrueID เป็นช่องทางหลักในการรับชม แต่ในการผลักดันคนจำนวนมากเข้า Platform ดังกล่าวก็ยังเป็นโจทย์ที่ท้าทายของทางทีมผู้จัด จึงต้องมารอดูกันว่าจนจบการประกวดครั้งนี้นั้น การดึงคนเข้าสู่ TrueID จะสำเร็จมากน้อยเพียงใด
การชม Live กิจกรรมกองประกวด Miss Universe Thailand แบบ Exclusive ทาง TrueID เช่นการรับชมคลาสการสอนเดินแบบนางงาม
2. ไม่ใช่แค่ Official Fan Page แต่นางงามเองก็ต้องหมั่น Social
ในช่วงการประกวดนี้ สิ่งที่แฟนนางงามรู้สึกสนุกเทียบเท่ากับการติดตามนางงามใน Official Facebook Fan Page ก็คือการติดตาม Social Media ของตัวนางงามเอง รวมไปถึงทีมงานผู้ใกล้ชิดของทีมงาน เพราะสิ่งเหล่านี้นั้นถือเป็น Exclusive Shot ที่ทำให้เราได้ตามติดนางงามเหมือนกับอยู่ในกิจกรรมนั้นๆ ด้วย โดยในบางกิจกรรมของกองประกวดนั้น ตัวนางงามเองและทีมงานได้รับอนุญาต (เชิงสนับสนุน) ให้ Live ลง Facebook หรือ Instagram ของตัวเอง เว้นแต่กิจกรรมที่เป็นความลับชั่วคราวของทางกองประกวด เช่นการถ่ายภาพเพื่อใช้ในสื่อต่างๆ ในอนาคต ดังนั้นแล้วใน พ.ศ.นี้ถือว่า สื่อบุคคลในระดับนางงามเองนั้น มีความสำคัญเทียบเท่าไม่แพ้กับสื่อหลักอย่าง Official Facebook Fan Page เลยก็ว่าได้
หงส์-อรณัญช์ภัสร์ อินทะรังษี Miss Grand ภูเก็ต หนึ่งในนางงามที่อยู่ในกระแสน่าจับตามองในปีนี้ Live พูดคุยกับแฟนคลับผ่าน Facebook ส่วนตัวเสมอ เพื่อความเป็นกันเองกับแฟนนางงาม
3. Content ทันท่วงที Admin ต้องพร้อมตลอดเวลา
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเป็น Admin Social Media ในยุคปัจจุบันนั้น ต้องมาพร้อมการเตรียมใจพร้อมรับการทำ Content ทั้งในเชิงรับและเชิงรุกในทุกสถานการณ์ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายของทั้ง 2 ประกวดที่ในวินาทีนี้ต้องมีทีม Admin ที่แข็งแกร่งมาก เพราะ Content แบบการ Live VDO นั้นอาจไม่เพียงพอต่อการสร้าง Conversation แต่ยังต้องมีภาพนิ่งจากกิจกรรมสด พร้อม Caption ที่ฉับไว เพื่อให้เกิดการแชร์อย่างรวดเร็ว รวมถึงมือตัดต่อคลิปสั้นๆที่ต้องอาศัยความไวในการจับใจความว่าตรงนี้คือช็อตเด็ด พร้อมเผยแพร่ต่อ
ไม่เพียงแต่การสร้าง Content ที่สามารถวางแผนไว้ล่วงหน้าได้ แต่ในสถานการณ์ Crisis ที่ต้องมีการแถลงข่าวที่ทันท่วงที เช่นอาการบาดเจ็บของผู้เข้าประกวดจากเวที Miss Universe Thailand สองคนอย่าง สายเอี๊ยม-กีรติกา จารุรัตน์จามรและ ยิ้ม-ชาวิกา วัตรสังข์ ที่ต้องถอดตัวออกจากการเข้าประกวดกะทันหัน ทางกองประกวดก็ได้ออกแถลงการณ์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเกิดดราม่าและข่าวลือต่างๆ อันจะเป็นภาพลบต่อกองประกวดและตัวสาวงามเอง
Admin กองประกวดที่ต้องเตรียมพร้อมในการทำ Content ที่ไม่คาดคิดเสมอ เช่นกรณีนางงามประสบอุบัติเหตุจนต้องถอนตัวออกจากการประกวด และมีผู้ที่ผ่านเข้ารอบเข้ามาแทนที่
4. Story ต้องมา กระแสต้องมี
เป็นอันรู้กันดีว่ารายการบันเทิงในประเทศไทยนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาย Reality หรือ Variety Show นั้น การมี Story ที่น่าประทับใจของผู้เข้าประกวด ทำให้คนสามารถจดจำเราไปได้มากกว่าครึ่งทาง โดยสำหรับ Miss Grand Thailand นั้น Story จะเน้นไปในเชิงการฝ่าฟัน ความมั่นใจ ความพยายามของนางงามในการช่วงชิงมงกุฎ โดยในการประกวดครั้งนี้นั้นมีนางงามหลายๆคนที่เคยได้ลงเวทีมาก่อนหน้านี้แล้ว และอาจไปไม่ถึงเป้าหมาย จึงได้กลับมาฟาดฟันช่วงชิงมงกุฏกันอีกครั้ง จึงนับเป็น Story ที่ทำให้แฟนนางงามติดตามพัฒนาการความงาม ความสามารถ และความเป็นนักสู้ของนางงามคนนั้นๆ
สำหรับเวที Miss Universe Thailand นั้น Story ของนางงามนั้นออกจะมีความเป็นปัจเจกเสียมากกว่า โดยนางงามแต่ละคนมักมีจุดยื่นที่เข้ามาแสดงออกว่าตนต้องการเป็นคนใน Spotlight เพื่อการเป็นกระบอกเสียงในด้านใด เช่นหนึ่งในสาวงามตัวเต็ง วีณา-ปวีณา ซิงค์ ที่มาพร้อมการชูแคมเปญการรณรงค์ลดการบูลลี่อย่าง “Be An Ally, Not A Bully.” และสำหรับเวทีนี้นั้นการสัมภาษณ์แสดงทัศนคติเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดังที่แฟนนางงามได้กล่าวไว้ว่าเวทีนี้ “ไม่ต้องการคนช็อตไมค์” ดังนั้นในเวทีนี้คนที่มีเรื่องเล่าที่น่าจดจำ และมีความสามารถในการเล่าเรื่องได้ดี มีสติ และมั่นใจ จึงเป็นต่อในเวที Miss Universe Thailand แห่งนี้
5. นางงามกระแส Viral มาแรง แต่ประมาทไม่ได้
แม้การสร้าง Story ให้ตนเองเป็นที่จดจำนั้นเป็นเรื่องดี แต่แฟนนางงามนั้นก็มีทั้งประเภทที่ Loyalty สูง อันกล่าวว่าเป็นทีมใครแล้ว จะปักธงเชียร์ไม่ไปไหน และยังมีประเภทที่ความชอบสามารถเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ ตามผลงานของสาวงามที่ตนเองประทับใจ บทเรียนที่คนที่อยู่ในกระแสนั้นไม่ใช่ผู้ที่กระแสดีจนจบการประกวด หรือได้เป็นผู้คว้ามงกุฎสูงสุดนั้นมีอยู่ให้เห็นในทุกปี และทุกการประกวด ดังนั้นการที่สร้างไวรัลให้ตนเองอยู่ในกระแสได้นั้นเป็นเรื่องดี แต่การที่จะคงกระแสเชิงบวกของตนเองได้จนจบงานนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุด
สำหรับเวที Miss Grand Thailand นั้น คลิปที่เป็นกระแสในทุกๆปีคงหนีไม่พ้นการแนะนำตัวด้วยลีลาสร้างสรรค์และเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด เพียงแต่สิ่งเหล่านี้นั้นล้วนคาดเดาได้แล้วจากการประกวดปีก่อนๆ ในปีล่าสุดจึงไม่ค่อยเกิดไวรัลมากนักเท่าปีก่อนๆ จึงต้องรอดูต่อไปว่าเวทีนี้จะมีคลิปกระแสใดที่สร้างความสั่นสะเทือนในโลกออนไลน์อีก
ส่วนทางด้านเวที Miss Universe Thailand นั้น คลิปที่แรกที่สร้างเสียงฮือฮาให้เวทีการประกวดปีนี้ ได้แก่คลิปการตอบคำถามวัดทัศนคติของ เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ ผู้เข้าประกวดในรอบคัดเลือก 50 คน โดยในครั้งนี้นั้นคลิปที่เป็นไวรัลไม่ใช่ภาพวีดีโอความสวยงาม หรือการเดินชุดว่ายน้ำ ชุดราตรีที่อ่อนช้อย แต่เป็น 10 นาทีการ Speech ตอบคำถามที่สร้างความประหลาดใจให้ผู้ชมคลิปคิดว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใครจึงมีทัศนคติและการพูดในที่สาธารณะได้อย่างน่าสนใจเช่นนี้ และเธอจะสามารถชนะมงกุฏด้วยภาพลักษณ์ความเป็นนางแบบที่ติดตัว ไม่เหมือนนางงามพิมพ์นิยมในเวทีโลกหรือไม่ (ดูคลิปที่นี่)
กระแสไวรัลของ เฌอเอม ชญาธนุส ที่เป็นที่โด่งดังในโลกออนไลน์
(Source: ภาพจากในกลุ่ม Fan club เฌอเอม)
คลิปไวรัลล่าสุดจากรอบตอบคำถาม 30 คนสุดท้าย จากซินดี้ อเล็กซานดร้า แฮงกี่ โดยได้พูดถึงระบบการศึกษาไทยอย่างเผ็ดร้อน
6. Community ของแฟนนางงามที่เริ่มเข้าสู่ LINE OpenChat
นอกเหนือไปจากชุมชนแฟนนางงามที่รวมตัวกันอยู่ใน Fan Page ดังอย่าง t-pageant.com และ Page อื่นๆ อีกหนึ่ง Platform ที่มาแรงโดยเฉพาะสำหรับบ้านแฟนคลับฝั่ง Miss Universe Thailand คือ LINE OpenChat โดยในปีนี้กองประกวดได้เปิด LINE OpenChat ให้แฟนคลับได้พูดคุยและสื่อสารกับทางทีมงานโดยตรง ทำให้แฟนคลับนั้นได้รู้ข่าวกรองที่รวดเร็วและไว อีกทั้งทางกองประกวดยังได้สำรวจความคิดเห็นของเหล่าแฟนคลับ และได้นำมาพัฒนาการประกวดในทุกๆรอบ ทุกๆกิจกรรม โดยในปัจจุบันมีผู้เข้าร่วม LINE OpenChat นี้มากกว่า 2,000 คนด้วยกัน รวมถึงกลุ่มแฟนคลับนางงามแต่ละคนเองในปีนี้หลายๆคนก็มี OpenChat เช่นเดียวกัน ใครที่อยากลองศึกษาดู ลอง Search ชื่อนางงามที่ชื่นชอบได้เลยค่ะ (ใครที่เข้าไปจอยเตรียมใจชาร์จแบตมือถือได้เลยค่ะ คุยกันเก่งมากๆ เผลอทำงานแป๊ปเดียวแชทขึ้นเป็นร้อย แต่อ่านสนุกมากเลยค่ะ)
สำหรับ Miss Grand Thailand เองนั้น ถึงแม้จะไม่ได้มีการสร้าง LINE OpenChat อย่างเป็นทางการ และไม่เป็นที่นิยมในหมู่แฟนคลับมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าแฟนคลับของเวทีนี้นั้นก็ยังเป็นผู้ติดตามที่เหนียวแน่นอยู่ตามแฟนเพจ และสื่อส่วนตัวของนางงาม และพร้อมยกพวกไปให้กำลังใจหากนางงามที่ตนเองชื่นชอบปรากฏบนสื่อใด อันเป็นคุณค่าของ Online Conversation ที่ไม่น้อยไปกว่าเวทีใดเลย
Official Line OpenChat ของ MissUniverseThailand 2020 ที่กองประกวดแจ้งข่าว และพูดคุยกับแฟนคลับด้วยตนเอง
แม้กลยุทธดิจิทัลของทั้ง 2 เวทีจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายแล้วทั้ง 2 กองประกวดต่างก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดแฟนนางงามให้มีส่วนร่วม เกิดกระแสการพูดถึง ซึ่งจะส่งผลดีต่อชื่อเสียงของเวที และดึงดูดผู้สนับสนุนในปีต่อๆไป สำหรับแฟนนางงามเองนั้น ความพยายามและความตั้งใจในการเข้าใจคนดูของผู้จัด ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความบันเทิงและความพึงพอใจให้แก่เหล่าแฟนนางงาม กฏการทำ Digital Marketing ในครั้งนี้จึงไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่า ผู้จัดก็พึ่งกระแสแฟนนางงาม และแฟนนางงามเองก็มีความสุขเพราะผู้จัด หากยึดหลักการ Win-win นี้ได้แล้ว Marketing ใดๆก็ย่อมประสบความสำเร็จไปมากกว่าครึ่งค่ะ
