สรุปเนื้อหาสัมมนา Sound Branding กับคุณท๊อป ฟังใจ

เป็นโอกาสดีที่ทางผู้เขียน UNBOX ได้เข้าร่วมงาน Digital Content Cluster Day ซึ่งถือได้ว่าเป็นงานรวมพลของบุคลากรในวงการ Digital Content จัดโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. และ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งงานภายในปีนี้นั้นจัดแบ่งเป็น 3 ช่วงคือการแถลงความสำเร็จในช่วงเช้า การจัด Webinar ในช่วงบ่าย ขนานไปกับการ Pitching ไปพร้อมๆกัน ซึ่งสำหรับในมุมผู้ชมทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักการตลาดแล้ว Session หนึ่งที่ฟังง่ายและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง คือสัมมนาในหัวข้อ Sound Branding โดย คุณท๊อป-ศรัณย์ ภิญญรัตน์ CEO & Co-founder บริษัท ฟังใจ จำกัด

ด้วยเนื้อหาที่หาฟังได้ยากในสัมมนาการตลาดทั่วไป ประกอบกับการบรรยายเข้าใจง่าย ทาง UNBOX จึงจดสรุปเนื้อหาที่น่าสนใจมาฝากกันดังนี้ค่ะ

ชม Live ย้อนหลังฉบับเต็ม คลิกที่นี่

Sound Branding ความสำคัญของเสียง

  • Sound Branding นั้นอธิบายอย่างง่ายคือการสร้างภาพจำของตราสินค้าเรากับเสียง ซึ่งเสียงนั้นทำงานได้ดีไม่น้อยไปกว่าภาพ เหมือนเวลาที่เราเราได้ยินเสียง ตืด ตื๊อ ตืด วิ่งผ่านหน้าบ้านเมื่อใดแล้วคิดถึงไอศกรีมวอลล์ หรือได้ยินเสียงตื่อดึ่ง ขึ้นมาเวลาเปิด Smart TV แล้วนึกถึง Netflix นั้น การทำงานของประสาทสัมผัสของมนุษย์ก็แทบไม่ต่างกับเวลาที่เราเห็นภาพสีแดงแถบขาวโค้ง แล้วนึกถึง Coke
  • แต่ทั้งนี้ การพูดถึง Sound Branding เป็นสิ่งที่นักการตลาดให้ความสนใจค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับการออกแบบโลโก้ หรือสิ่งที่เป็นภาพอื่นๆ อย่างเช่นเวลาเราเปิดตำรา Corporate Identity ของทางบริษัทเมื่อใด เราก็มักจะเจอแต่วิธีการใช้ฟ้อนต์ ใช้สี ใช้โลโก้ ให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ น้อยคนที่จะกล่าวถึง Identity ทางด้านเสียงของบริษัท
  • เสียงเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากกว่าที่คิด จากงานวิจัยพบว่าเสียงมีผลต่อพฤติกรรมการซื้อของคน เช่น เพลงที่มีจังหวะเร็ว จะกระตุ้นการซื้อสินค้าของคน หรือหากเราเดินร้านกาแฟที่ไม่มีเพลงเปิดเราอาจจะรู้สึกแปลก และคนเราจะมีการผูกความทรงจำ ความรู้สึกบางอย่างกับเสียงของแบรนด์ เช่นเสียงบางเสียงทำให้รู้สึกหวนนึกถึงอดีต หรือนึกถึงความทรงจำดีๆบางอย่างได้

คุณท๊อปยกตัวอย่างจากแบรนด์ไอศกรีม Wall’s ที่ถือว่าเป็นเคสที่ใช้เสียงบอกเล่าเรื่องราวได้ดี ทั้งเสียงรถไอติมอันเป็นเอกลักษณ์ และเสียงอื่นๆที่อยู่ในคลิปเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการส่งต่อความสุข

การเริ่มต้นสร้างเสียงสำหรับแบรนด์
ก่อนจะสร้างเสียง แบรนด์ควรมีความชัดเจนใน DNA (หรือ Identity หรือ Character แล้วแต่แต่ละบริษัทกำหนด) ของตนเองเสียก่อน เพื่อที่นักการตลาดจะได้บรีฟคนที่จะช่วยสร้างเสียงให้เราได้อย่างถูกต้อง โดยอาจจะเป็น Keyword สั้นๆที่บ่งบอกถึงแบรนด์ของเรา

  • และนักการตลาดควรมีความชัดเจนว่าเราจะนำ Sound ไปทำอะไร เช่น การประกอบโฆษณา การประกอบรายการ การประกอบต้นคลิป เพื่อให้บรีฟมีความชัดเจนด้านการใช้งาน
  • การพัฒนาเสียงนั้นอาจเริ่มต้นพัฒนาที่จุดเล็กๆที่สุด เช่นการเริ่มจากตัวโน้ตที่เป็น Core หลัก ซึ่งมักเป็นโน้ตไม่กี่ตัว สู่ท่อนเพลงที่ยาวมากขึ้น หรือพัฒนาเป็นเพลงที่ทำให้คนรู้สึกติดหู และอาจนำไปสู่ Sound อื่นๆ ที่นำไปใช้ในโอกาสที่แตกต่างกัน แต่ยังมีองค์ประกอบบางอย่างที่ทำให้คนนึกถึงแบรนด์เดียวกัน
  • ในบางกรณี หากเป็นงาน Event หรืองานเทศกาลที่จัดเป็นรายปี ก็สามารถสร้าง Sound ที่แตกต่างในแต่ละปี เช่นมีเพลง Theme ที่แตกต่างกันในแต่ละปีได้ แต่ตัวเนื้อหาของเพลง หรืออะไรบางอย่างยังต้องมีความชัดเจนใน Core DNA ของแบรนด์ หรืออีกวิธีหนึ่งนั้นอาจใช้ Sound ประกอบการปรากฏตัวของโลโก้ในทุกๆเบรค ทำให้คนจดจำได้
  • การสร้าง Sound ที่ดีและโดนใจนั้นควรคำนึงถึงกลุ่มผู้ฟังเป็นหลัก โดยอย่างง่ายที่สุดอาจจะพิจารณาจากช่วงวัย ต้องศึกษาว่าลักษณะ Sound แบบใดที่ทำให้คนวัยใด รู้สึกแบบใด เช่นการทำให้คน Gen Z กับ Gen X รู้สึกสนุกนั้นอาจจะต้องใช้จังหวะที่แตกต่างกัน เป็นต้น
(ภาพจากในงานสัมมนา คุณท๊อปอธิบายถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างเสียง สู่ประสบการณ์ผู้บริโภค (Sound experience) ในรูปแบบที่หลากหลาย)

ซึ่งทั้งหมดนี้นั้นอาจจะฟังดูยากเกินกว่าการที่นักการตลาดจะแต่งเพลงขึ้นเอง พวกเราจึงมักติดต่อไปยัง Sound studio หรือ Sound designer ในลักษณะ Freelance ในการช่วยออกแบบเสียงที่เหมาะสมกับแบรนด์ของเราได้ แต่ทั้งนี้คุณท๊อปเองก็ได้ทิ้งท้ายว่า บริษัท ฟังใจ จำกัด ของคุณท๊อปเองนั้นก็มีบริการทางด้านนี้เช่นกัน หากท่านใดที่เริ่มต้นไม่ถูก สามารถติดต่อทางบริษัทฟังใจก่อนได้นะคะ

ติดต่อบริษัทฟังใจ https://www.facebook.com/hellofungjai

Contributor

Jinsiree Palakawongsa Na Ayudhya

Full-time lecturer at a school of communication arts and freelance event planner. Living with a strong passion for experiential and event marketing. Her happiness is all about making event audiences smile and playing with her cats.

Contributor

Share this post with your friends

More Articles

blog
Karn Triamsiriworakul

อยากจะเป็น YouTuber ต้องทำยังไงบ้าง?

“จอเสื่อมแล้วครับ ซ่อมไม่ได้” ส่วนหนึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมทำใจไว้อยู่แล้วว่าโทรทัศน์ที่บ้านจะต้องมาถึงวันที่มันสิ้นอายุขัย แต่ความรู้สึกถัดจากความเสียดายโทรทัศน์เครื่องเก่า ก็เป็น “ต้องไปดูรีวิวทีวีใน YouTube ซะแล้ว” เพราะเมื่อถึงเวลาต้องซื้อของชิ้นใหญ่ ราคาสูง

Read More »
Comodo SSL