สำหรับในยุคนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไหนจะเกิดได้รวดเร็วเท่ากับ การตลาดออนไลน์ อีกแล้ว เพราะด้วยความที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ แนวทางใหม่ๆ เครื่องมือใหม่ๆ ให้เข้ามามีบทบาทสำคัญของแวดวงธุรกิจมากขีึ้น จึงเหมือนเป็นการบังคับให้วงการธุรกิจต่างๆ ต้องเกิดการปรับตัวกันมากขึ้น เพื่อที่จะตามเทรนด์ใหม่ๆ ทั้งที่ช่วยส่งเสริมการตลาด การโฆษณา และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายได้มากขึ้น
ในหลายๆ เรื่อง หลายๆ คนอาจจะพอเดากันได้อยู่แล้วว่าจะเป็นจำนวนคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตมากขึ้น ใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ปริมาณคอนเทนต์ที่เพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่การทำธุรกรรมออนไลน์ที่มีบทบาทมากขึ้นกับชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน
แต่ถ้านอกเหนือจากเทรนด์พวกนั้นหล่ะ? มีอะไรแปลกๆ ที่น่าจับตามองในยุคนี้บ้างไหม?
ในบทความนี้ UNBOX BKK จะชวนทุกคนมาจับตาดู 5 เทรนด์การตลาดออนไลน์ ในประเทศไทยกันดีกว่า ว่ามีอะไรใหม่ๆ น่าสนใจ ที่ธุรกิจควรต้องจับตามองกันบ้างไหม หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จนจบ คุณอาจจะมีไอเดียใหม่ๆ ในการทำ การตลาดออนไลน์ ของคุณได้มากขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้มากขึ้นนะ
เทรนด์ที่ 1: สินค้าขายได้ เป็นเพราะ Customer Experience ล้วนๆ
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางครั้งคนขายสินค้าเหมือนๆ กัน ในราคาใกล้ๆ กัน แถมโปรโมชั่นยังเหมืือนกันอีก แต่ A ขายได้ B ขายไม่ดีเท่า C อาจจะขายไม่ได้เลย
นั่นเป็นเพราะจริงๆ แล้วคนเราไม่ได้ตัดสินใจซื้อสินค้า แค่เพราะ Loyalty กับแบรนด์ แต่เป็นเพราะคนตัดสินใจซื้อของ จากประสบการณ์ที่ได้รับมากกว่า
เคยเป็นไหม อุ๊ย แม่ค้าคนนี้พูดจาดี ตอบดีมาก ใส่ใจมาก ซื้อร้านนี้แหละ แพงกว่าร้านอื่นนิดหน่อย แต่แม่ค้าดีมากกกกกกกกกกก ถ้าหากคุณเองก็เคยม่ีความรู้สึกแบบนี้ล่ะก็ บอกเลยว่า นี่คือตัวอย่างของ Customer Experience ที่อาจจะใช้ Tools วัดอะไรเยอะมากไม่ได้ แต่รับรองได้เลย ลูกค้าเก่าไม่ไปไหน ลูกค้าใหม่จะเข้ามาหาแน่นอน
วิธีรับมือ
สำหรับลูกค้าในสมัยนี้แล้ว การซื้อสินค้าหรือรับบริการนั้นมักมาจากการพูดคุยก่อน ไม่ว่าจะเป็น LINE หรือ Direct Message อื่นๆ ก็ตาม ตอบเร็ว ตอบไว ใส่ใจกับความต้องการหรือปัญหากับลูกค้า รับรองว่า ลูกค้าไม่หายไปไหนแน่นอน!
เทรนด์ที่ 2: Direct Message นั้นสำคัญไฉน
สำหรับการซื้อของทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้ิอของออนไลน์ ตาม Platform ต่างๆ เช่น Facebook หรือ E-Commerce Platform อื่นๆ การได้พูดคุยกับผู้ขายแบบ Real Time นั้นมีส่วนเป็นอย่างมากในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือรับบริการเลยก็ว่าได้
เพราะปัจจุบันนี้คนเรามีเวลาเท่าเดิม คอนเทนต์เยอะขึ้น ทำให้คนเรามักเลือกที่จะหาคำตอบแบบเร็วที่สุด ครบถ้วนที่สุด
“สินค้ายังมีอยู่ไหมคะ?”
“ถ้าซื้อ xxx ไปแล้ว ใช้กับ xxx จะทำให้ผิวแพ้ไหมคะ?”
“ตอนนี้เป็น xxx อยู่แล้วถ้าอยากให้หาย จะต้องทานควบคู่กับ xxx หรือต้องทำยังไงคะ รบกวนแนะนำหน่อยได้ไหม?”
แน่นอนว่าคำถามเหล่านี้ เป็นคำถามที่ค่อนข้าง Personalize และถ้าได้รับคำตอบจากผู้ขายโดนตรง อาจจะมีส่วนในการช่วยตัดสินใจมากขึ้น
วิธีการรับมือ
สำหรับตัวผู้ขายเอง หรือฝ่ายบริการลูกค้า การรู้จักสินค้าหรือบริการของเรานั้นสำคัญมากๆ เพราะถ้าหากลูกค้ามีคำถามแล้วเราใช้เวลาในการตอบนาน หรือตอบแบบไม่เคลียร์ อาจมีส่วนให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อได้ ดังนั้นการมีเจ้าหน้าที่ หรือแอดมินคอยตอบแชทลูกค้า หรือตอบคำถามลูกค้านั้นถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมานาแล้ว และจะยังคงสำคัญอยู่แม้แต่ในปี 2020 นี้ก็ตาม
เทรนด์ที่ 3 Personalization ถ้ายังไม่ทำ ไม่ได้แล้ว
สำหรับยุคที่คอนเทนต์นั้นมีหลากหลายและมากมายให้เสพ การทำ Personalization นั้นถือเป็นอีกกลยุทธ์หน่ึ่ง ซึ่งในทุกครั้งที่เราทำคอนเทนต์ส่งออกไปหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ประสบการณ์ หรือ Customer Experience ที่พวกเขาได้รับนั้นจะเป็นข้อความเหมือนกัน รูปภาพเหมือนกัน ดังนั้นการทำการตลาดออนไลน์แบบ Personalization นั้นจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิมให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรา
ส่วนตัวอย่างของการ Personalization แบบง่ายๆ เลย ก็คงจะหนีไม่พ้น การส่งอีเมลหาลูกค้าโดยเริ่มต้นอีเมลว่า สวัสดี คุณ xxx หรือ Attach Related Products โดยอ้างอิงจากข้อมูลของลูกค้าเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้ง่ายขึ้น
วิธีการรับมือ
การรับมือที่ดีที่สุดของการทำ Personalization คือการวางแผนการทำคอนเทนต์ก่อนว่า เราต้องการจะพูดอะไรกับลูกค้าของเรา เพราะการสื่อสารแบบนี้ คือการพูดแบบ “One on One”
โดยถ้าให้ยกตัวอย่าง คุณอาจจะเลือกใช้ Software อย่าง MailChimp เพื่อช่วยในการ Personalized email ของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ปกติที่คุณส่งอีเมลไปว่า สวัสดี แบบทั่วไปเหมือน Broadcast แบบหุ่นยนต์ คุณอาจจะเลือกใช้ความ Personalize โดยการใส่ชื่อเข้าไป เช่น สวัสดีค่ะ คุณ xxx หรือเก็บรายละเอียดจากประวัติการซื้อสินค้า และนำมาทำ Personalized Message ก็ทำได้เหมือนกัน
เทรนด์ที่ 4 Optimize เว็บไซต์สำหรับ Snippet!
หลายๆ คนอาจจะยังไม่เข้าใจกับคำว่า Snippet คืออะไร แล้วทำไมเราต้องไปสนใจ Snippet ในเมื่อเราก็มีทำ SEO แถมยังซื้อ Google Ads อยู่
Snippet คือ Content ที่ได้รับการแนะนำจาก Google ว่ามีความเกี่ยวข้องและสามารถตอบโจทย์กับสิ่งที่คนกำลัง Search หาได้ดีที่สุด
ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Digital Marketing มีการเปลี่ยนแปลงสูงและมีความ Challenge อย่างต่อเนื่องนั้นคือการที่ Algorithm มีการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง และในการที่ Search Engine อย่าง Google มีการพัฒนามากขึ้น ทำให้ Digital Marketer ต้องปรับตัวและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
วิธีการรับมือ
มองหาลู่ทาง ศึกษาข้อมูล ทำ Research ให้มากขึ้น อย่าทำแต่อะไรเดิมๆ เพราะสิ่งที่เคยได้ผลในวันนั้น อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์เดียวกันในวันนี้ อย่าลืมว่าลกดิจิทัลนั้นเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เพราะฉะนั้นแล้วต้องคอยอัปเดตข่าวสารต่างๆ อยู่เรื่องๆ เรียนรู้และเปิดใจที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา และลองทำอะไรใหม่ๆ เพิ่มเติม อาจจะช่วยคุณติดจรวจธุรกิจของคุณได้นะ
เทรนด์ที่ 5 Chatbot ต้องมาแล้ว มาพร้อมกับ Conversational Marketing
จากเทรนด์ที่ 2 ที่เกี่ยวกับ Direct Message ว่าถ้าหากมีคนสนใจสินค้าหรือบริการแล้วจะมีการสอบถามมาก่อน ซึ่งระยะเวลาในการตอบคำถามคือเป็นอีกเรื่องที่ Digital Marketer ต้องให้ความสนใจ ดังนั้น Chatbot ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่น่าสนใจ เพราะเป็น Software ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่ม Interaction และ Engagement ให้กับลูกค้า หรือ Visitors ของเรา ในวิธีที่ดูเป็น One on One Marketing มากขึ้น ซึ่งการ Implement Chatbot นั้นถือเป็น Software ที่ต้องมีมีการลงทุน ทั้งในเรื่องของการสร้างจนไปถึงการ Optimize
วิธีการรับมือ
ถ้าหากบริษัท หรือธุรกิจของคุณนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องตอบคำถามลูกค้าอยู่ตลอด และคุณเองก็อาจจะยังไม่ได้มีทีมมาคอยดูแลในส่วนนี้ คุณสามารถเลือก Implement Chatbot Software ได้ ไม่ว่าจะเป็น Drift, G2 หรือ Chatbot.com
ส่วนก่อนเริ่มต้น แน่นอนว่าคุณต้องวางแผนก่อน การสร้าง Chatbot ให้ออกมาเหมือนมนุษย์มากที่สุด คือคุณจำเป็นต้องตั้งชื่อ และกำหนดข้อความการตอบข้อความ จับ Keywords คำถามของลูกค้าออกมาก่อน ซึ่งทั้งหมดนี้ จำเป็นที่จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับแผนการตลาดของคุณด้วย
สรุป
สำหรับเทรนด์ Digital Marketing ที่เราได้ยกตัวอย่างมาทั้ง 5 อันนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้องของการทำตลาดออนไลน์ในปีนี้ ยังมีอย่างอื่นอีกหลายอย่างที่จะเข้ามามีบทบาทในแวดวงดิจิทัลในประเทศไทย ดังนั้นการศึกษาข้อมูล และทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะอย่าลืมว่า อะไรที่เคยทำแล้วได้ผลในวันนั้น ในวันนี้อาจจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ทำให้ไม่ได้รับผลลัพธ์ในแบบที่เคยเป็นก็เป็นได้
Contributor
Katina Rinsawad
Considered herself as a Digital Nerd. Full time digital marketer and freelance business consultant for SMEs. 70% of her life is spent in digital world while the remaining 30% is with luggages, boarding passes, and 2 cameras.