ในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา คิดว่าทุกคนคงจะเห็นกระแส Milli กับข้าวเหนียวมะม่วงบนเวทีระดับโลกอย่าง Coachella แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า “กระแส” ที่ว่านั้นมีมานานหรือยัง และคงจะเป็นประโยชน์มากถ้าแบรนด์และธุรกิจสามารถจับทุกเทรนด์บนโลกออนไลน์รวมถึง Insight ของลูกค้าเพื่อมาวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับทำการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น วันนี้ทาง UNBOX มีเครื่องมือดีๆจาก Google มานำเสนอ ซึ่งก็คือ Google Trends
(ขอบคุณรูปจาก The Standard)
มารู้จัก Google Trends กันเถอะ
Google Trends คือเว็บไซต์ลูกของ Google ทำหน้าที่นำเอาคำที่ผู้ใช้ค้นหาใน Google (Search Query) มาวิเคราะห์โดยแสดงผล Keywords ด้วยแผนที่ ช่วงเวลา และคำที่เกี่ยวข้อง โดยที่คำค้นหานั้นจะเป็นคำว่าอะไรก็ได้ เช่น ชื่อศิลปิน, ชื่อแบรนด์, อาหาร หรือว่าคำแสลง นอกจากนี้ Google Trends สามารถตรวจสอบ Location ได้ด้วยว่าคนที่ค้นหาคำนั้นๆ อาศัยอยู่ที่ประเทศอะไร เมืองอะไร คำค้นหาของเราจะเป็นคำยอดนิยมระดับโลกหรือนิยมแค่ในกลุ่มเล็กๆเท่านั้น และยังสามารถดูช่วงเวลาความนิยมของ Keywords ในอดีตจนถึงปัจจุบันได้ด้วย
ทีมงาน UNBOX ขอยกตัวอย่างจากกระแสน้อง Milli และข้าวเหนียวมะม่วง ในการพูดถึง Google Trends เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่ากราฟที่แสดงผลการค้นหาของคำว่า “ข้าวเหนียวมะม่วง” พุ่งตัวสูงขึ้นในวันที่ 17 เมษายน ซึ่งตรงกับวันที่น้องขึ้นเวที
นอกจากนี้ระบบยังแสดง “หัวข้อที่เกี่ยวข้อง” ซึ่งทำให้เรารู้จักคนที่ค้นหามากขึ้นว่านอกจากข้าวเหนียวมะม่วงแล้ว เขายังสนใจอะไรอีกไหม? รวมถึงตัว “คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง” ที่เป็นประโยชน์กับการนำ Keywords ไปต่อยอดในการทำ SEO ได้ ดียิ่งขึ้น คนจะยิ่งเห็นเว็บเราได้ง่ายขึ้น ถ้ามองในเชิงการตลาดแบรนด์สามารถใช้คำเหล่านี้มาเป็นไอเดียการทำ Content ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเป็นการดูโดยทั่วไปแล้วสิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ Milli, ข้าวเหนียวมะม่วง, และดนตรี มีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างมาก
แน่นอนว่า Google Trends ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกธุรกิจ แต่จะดีมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการประโยชน์อยู่ในกระแส ต้องการทราบว่าตอนนี้อะไรกำลังเป็นที่นิยม เช่น ร้านค้าที่ขายสินค้าตามกระแส นักการตลาดที่ดูแล SEO การคิดโปรโมชั่นที่ล้อไปกับกระแสสังคม หรือแม้กระทั่ง Blogger หน้าใหม่ที่ต้องการผลิต Content อินเทรนด์
ขายอะไร ขายช่วงไหน?
เจ้าของธุรกิจต้องมีคำถามนี้เกิดในหัวแน่นอน ถ้ากำลังคิดจะขายสินค้าหรือบริการใหม่ๆ Google Trends จะสามารถช่วยวิเคราะห์ทิศทางการทำตลาดบนโลก Online ได้ เราสามารถดูได้เลยว่าสินค้านั้นๆมีความนิยมตลอดปีหรือเปล่า หรือแค่ช่วง 2-3 เดือนเท่านั้น
ขอยกตัวอย่างร้านกาแฟ และร้านหมูกระทะ จะเห็นได้ว่าในปี 2021 ผลการค้นหาของคำว่า “ร้านกาแฟ” นั้นทิ้งห่างจากคำว่า “ร้านหมูกระทะ” มากเลยทีเดียว ดังนั้นคนที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเปิดร้านกาแฟหรือร้านหมูกระทะดี กราฟนี้อาจทำให้เห็นภาพมากขึ้น เท่านี้ยังไม่พอ หากเราเจาะลึกลงไปว่าจังหวัดไหนที่ค้นหาคำนี้ และคำค้นหาที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง ระบบก็มีให้เราดูเพิ่มเติมได้อีก เจ้าของธุรกิจที่เกี่ยวกับกาแฟอาจกดเข้าไปดูคำค้นหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อทำ SEO ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
(คำค้นหาเพิ่มเติมของร้านกาแฟนั้นมีคำที่เป็น Location อยู่ถึง 3 ใน 5 เลยทีเดียว)
(คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยค้นหาร้านหมูกระทะที่ใกล้บ้าน เข้าร่วมโครการเราชนะ และเปิดตอนนี้)
จากตัวอย่าง หากวิเคราะห์กันคร่าวๆ ร้านกาแฟน่าจะเป็นที่ต้องการของคนทั้งประเทศ แต่อาจจะไปกระจุกตัวที่เชียงใหม่และเขาใหญ่ซึ่งดูได้จากความหนาแน่นของสีบนแผนที่และคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง ส่วนร้านหมูกระทะ เมื่อเปรียบเทียบกับร้านกาแฟแล้วความต้องการดูเหมือนว่าจะกระจุกตัวอยู่ที่หัวเมืองใหญ่ และจากพฤติกรรมที่ดูได้จากคำค้นหาที่เกี่ยวข้องแล้ว “เปิดตอนนี้” อาจจะหมายถึงช่วงเวลาดึกๆ ซึ่งถ้าหากจะเปิดร้านหมูกระทะจริงๆ เราสามารถต่อยอดด้วยการปรับเวลาปิดร้านให้ดึกขึ้นไปอีก
ทาง UNBOX หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจที่กำลังหาสินค้ามาขาย หรือนักการตลาดสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
