3 ข้อแนะนำในการทำโฆษณาผ่าน Instagram story

นักการตลาดหลายท่านน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าการทำการตลาดผ่าน Instagram คือเน้นสวย รูปต้องดี เห็นแล้วเข้าใจได้ง่ายเลยว่าจะสื่ออะไร เพราะ Instagram นั้นถือเป็น Platform ที่คนเข้ามาเสพความสวยงามซะเป็นส่วนใหญ่ และ Instagram Story ก็เป็นอีก 1 Feature ยอดนิยมที่ผู้ใช้งานชอบดูความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ และใช้เวลาอยู่กับมันมากพอสมควร ความน่าสนใจของเจ้า IG Story ก็คือแบรนด์จะมีเวลาแค่ 5-15 วินาทีในการขายสินค้าหรือบริการ และโฆษณาจะอยู่ได้แค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น

IG Story สามารถทำได้ผ่าน Facebook Ads Manager วิธีการเพียงแค่กด Placement ให้ไปที่ Instagram Story เลือก Objective (วัตถุประสงค์) และทาง Platform ก็จะไปจัดการเอาโฆษณาของเราไปอยู่บน Stories ของผู้ใช้งานเอง

ทีมงาน UNBOX ขอแนะนำ 3 ข้อหลักแนะนำในการทำโฆษณาผ่าน Instagram story ที่อยากให้ลองไปปรับใช้กัน

1. Visual ต้องมาก่อน
เพื่อให้ลูกค้าที่ปัดขวาใน Instagram Story แล้วมาเจอโฆษณาเรา ได้ประสบการณ์ที่ดี เจอรูปที่สวย มีข้อความที่ชัดเจน แบรนด์ควรสร้างสื่อโฆษณาไม่ว่าจะเป็นรูปหรือคลิปวีดีโอให้แสดงผลใน Platform นั้นๆได้ดีที่สุด โดยขนาดของรูปที่แนะนำใน Instagram Story คือ 1080 x 1920 pixels และขนาดของวีดีโอคือ 1080 x 1920 pixels ไฟล์ควรเป็นแบบ MP4 หรือ MOV และขนาดไฟล์ต้องไม่เกิน 4GB เท่านั้น ทั้งนี้ นักการตลาดอาจใช้แอปแต่งรูป แอปตัดคลิปวีดีโอช่วยด้วยก็ได้ เนื่องจากแอปเหล่านี้จะมี Feature เพื่อผลิตสื่อสำหรับ IG Story โดยเฉพาะ รับรองว่าสวยงามแน่นอน

(แบรนด์ Sweets Cottage ทำโฆษณาขายคอร์สสอนทำเค้กผ่าน IG Story แค่เห็นคลิปก็อยากจะคลิกเข้าไปดูแล้ว เค้กน่าทานมาก!)

2. ทำรูปหรือคลิปสำหรับ Placement ที่ Instagram Story โดยเฉพาะ
ข้อผิดพลาดที่หลายๆแบรนด์มักจะทำกันก็คือ การที่ใช้รูปเดียวกันมาทำโฆษณาแต่มีหลาย Placements เช่น ทำรูปขนาด 1:1 โพสต์ลง Facebook แล้วเลือก Placements ใน Facebook Ads เป็น Facebook feeds, Instagram feeds และ Instagram Story ซึ่งสิ่งที่ได้ก็คือ รูป 1:1 ของ Facebook จะไปแสดงผลในพื้นที่ 19:6 ของ Instagram Story ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่สวย ดังนั้นแบรนด์ควรผลิตรูปหรือคลิปที่ใช้สำหรับ IG Story โดยเฉพาะ และกด Placement ไปที่ IG Story เลย

ในกรณีที่ไม่มีคลิปที่เป็นไซส์ IG Story เราขอแนะนำให้ทำเป็นกรอบขึ้นมาเพิ่มเติม แล้วใส่พวก Text ลงไปทั้งด้านบนและด้านล่าง ตกแต่งให้สวยงาม ก็จะทำให้น่าดึงดูดเช่นกัน

(ไม้กลอง Promark ทำคลิปแนวตั้งก็จริง แต่ยังไม่ใช่ไซส์ของ IG Story จึงต้องตกแต่งเพิ่มเติมเล็กน้อยเพื่อให้โฆษณามีความน่าดึงดูด)

3. ใส่ Link เพื่อดึงคนไปที่ Platform อื่นๆของแบรนด์
นอกจากช่องแชทที่มีอยู่ปกติแล้ว ธุรกิจหรือแบรนด์สามารถใช้ฟังชั่น “Swipe Up” ให้ทางแบรนด์ได้ใส่ลิงค์พาไปที่ LINE หรือ Website ของเราก็ได้ ขั้นตอนก็แสนง่าย เมื่อกำลังจะ Upload IG Story ให้กดเครื่องหมายรูปโซ่ > แปะลิงค์ > แล้วก็อัพได้เลย ทั้งนี้ Function นี้จะใช้ได้สำหรับ Account ที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว หรือมีผู้ติดตามมากกว่า 1 หมื่นคนเท่านั้น

ส่วนการ Take Action นั้น ทางแบรนด์สามารถทำได้ทั้ง Shop Now (ซื้อเลย!), Sign Up (ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร), หรือว่าจะเป็น Learn More (เรียนรู้เพิ่มเติม) และลิ้งค์ไปยังช่องทางอื่นๆที่ต้องการ เช่นการกด Shop Now อาจลิ้งค์ไปที่เว็บไซต์ E-commerce หรือ LINE Official Account ก็ได้

(แบรนด์สินค้าแฟชั่น แน่นอนว่าต้องกด Shop Now เพื่อจะได้ส่งคนไปซื้อสินค้าที่เว็บไซต์)

(คอนโด AP ทำโฆษณาเพื่อให้คนมา Register พอคลิกก็เป็นฟอร์มให้กรอกเลย)

Contributor

Share this post with your friends

More Articles

blog
Unbox Team

ทำไมการทำ keyword research ถึงสำคัญ? ทำแล้วได้อะไร ?!

การทำ Keyword Research เป็นแนวทางปฏิบัติในการค้นหาคำและวลีทั่วไป ที่จะดึงดูดปริมาณการค้นหาไปยังหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาสำหรับเว็บไซต์ได้ วันนี้ทีม UNBOX จะชวนมาดูความสำคัญของการทำ Keyword

Read More »
blog
Supat Imyoo

ความสำคัญของ First-party Data

เริ่มที่การทำความเข้าใจก่อนว่าประเภทของข้อมูล (Data) ที่เรามีกันอยู่ในโลกออนไลน์นั้นมี 3 กลุ่มใหญ่นั่นคือ: First-party data Second-party data Third-party

Read More »
Comodo SSL