ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราอาจจำเป็นต้องมีงานเสริมเพื่อเอาตัวรอด ช่วยสร้างความมั่นคง หรือหาทางหนีทีไล่ไว้เผื่อฉุกเฉิน คงเคยได้ยินกันบ้างว่าคนนั้นคนนี้ขายของจนร่ำรวยในช่วง COVID-19 พลิกวิกฤตมาเป็นโอกาส แต่เราอาจจะไม่ต้องฝันไปถึงขั้นนั้น เพราะในช่วงเวลาแบบนี้ การประคับประคองตัวเอง เอาตัวรอดไปได้โดยที่ยังมีสติสตัง กำลังใจและรอยยิ้มอยู่ก็เป็นอะไรที่ดีมากๆ แล้ว
ทีม UNBOX ได้มีโอกาสรู้จักและเรียนรู้จากคนที่ทำงานหารายได้เสริมหรือตั้งธุรกิจในช่วง COVID-19 เช่นนี้ ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นตัวอย่างอาชีพที่เราคัดมาให้ลองดูกัน เผื่อจะช่วยจุดประกายให้เริ่มทำงานสร้างรายได้เพิ่มเติมกันครับ
อาชีพจากความถนัดส่วนบุคคล
สำหรับผู้ที่ปกติทำงานประจำอยู่แล้ว หากมีเวลาว่างมากขึ้น อาจเลือกทำงานฟรีแลนซ์เสริมได้ ซึ่งเราสามารถหางานเหล่านี้ได้ไม่ยากจาก กลุ่ม Facebook Group เกี่ยวกับงานอิสระ หรือเข้าไปสมัครเป็นฟรีแลนซ์บน www.fastwork.co ซึ่ง อาจเป็นงานฝีมือ งานด้านภาษา เขียนหนังสือหรือนิยาย ไปจนถึงงานง่ายๆ ที่ทำงานได้ผ่านคอมพิวเตอร์ไม่ยุ่งยาก เช่น จัดหน้ากระดาษ ถอดเสียงเทปเป็นตัวอักษร ก็เป็นอีกทางในการสร้างรายได้ครับ
ถ้าเรามีประสบการณ์ มี Skills ที่เรียนรู้มาจากความสนใจส่วนตัวหรือจากการทำงานหลัก เลือกเป็นติวเตอร์ก็เป็นเรื่องดี จะได้มีโอกาสเผยแพร่ความรู้ของเราให้เป็นประโยชน์กับคนทั่วๆ ไป อาจทำในรูปแบบช่อง YouTube เพื่อแนะนำเทคนิคทั่วไป และรับเงินจากแพลตฟอร์มในกรณีที่ยอดวิวถึงตามที่กำหนด หรือจัดเป็นคลาสสอน คอร์สพิเศษที่ต้องสมัครเรียนเป็นงานสอนออนไลน์จริงจัง เราก็เข้าไปสอนบนแพลตฟอร์มที่รองรับงานสอนออนไลน์อย่าง Skilllane.com ได้เลย ซึ่งตัวแพลตฟอร์มมีให้คำแนะนำเรื่องเทคนิคและการทำคลิปเพื่อการสอนออนไลน์อีกด้วย
(เว็บไซต์ www.skilllane.com คอร์สยอดนิยมได้แก่เรื่องการเงิน การลงทุน และทักษะ Soft Skill ต่างๆ)
ขายของออนไลน์ ช่องทางทำเงินยอดนิยมของปี 2020
การขายของออนไลน์เป็นตัวเลือกหนึ่งที่นิยมกัน ไม่ว่าจะเลือกของตามเทรนด์มาขายออนไลน์ เช่น หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย แก็ตเจ็ต หรืออุปกรณ์รักษาความสะอาดต่างๆ หรือเลือกขายของตามความสนใจ ก็เป็นงานขายที่เหมาะกับหลายคนเพราะมีไอเดียหรือลู่ทางเป็นพื้นฐานอยู่แล้วว่าจะหาของมาจากที่ไหนและจะไปขายให้ใคร คนที่มาขายของเป็นงานเสริม การได้ทำงานกับผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองมีความสนใจจะได้ช่วยให้มีแรงในการพูดขาย เขียนขายไปในตัว
บางคนอาจใช้โอกาสที่ Work From Home ติดอยู่กับบ้าน ในการจัดข้าวของในบ้านแล้วเอาของที่ไม่ได้ใช้มาขายเป็นมือสองผ่าน www.kaidee.com ก็เข้าที หรือบางคนอาจนำสินค้าซึ่งเป็นกิจการของที่บ้านมาขายออนไลน์ก็เป็นการพัฒนาธุรกิจอย่างง่ายๆ แบบหนึ่ง
จะขายของออนไลน์ตอนนี้ก็มีแพลตฟอร์มให้เลือกขายได้มากมาย เลือกได้ตามความถนัด จะเป็น Social Media แบบ Facebook หรือ Instagram หรือเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce เพื่องานขายของเต็มตัวแบบ Lazada หรือ Shopee
(ไม่ต้องเจอหน้ากันก็ขายของให้ได้ แค่ฝากพนักงานไปส่ง)
Facebook และ Instagram เป็นแพลตฟอร์มเปิด สร้างบัญชีแล้วเริ่มขายของได้เลย โดยจะเป็นบัญชีส่วนบุคคล หรือทำเป็นบัญชีของแบรนด์ก็ได้ หากเปิดเป็น Facebook Page ก็ช่วยให้คนทั่วไปเข้าถึงแบรนด์ของเราได้ง่ายขึ้น อย่าลืมนำเพจของเราไปแปะแนะนำตัวใน Facebook Group ที่เรามี Connection อยู่ด้วย อาทิ โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือบริษัท เพราะเครือข่ายของคนที่มีจุดร่วมเดียวกันอยากช่วยเหลือกันนี้ อาจช่วยจุดแบรนด์ของเราให้เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ได้ภายในชั่วข้ามคืน
(Facebook Group “จุฬาฯ มาร์เก็ตเพลส” ซึ่งด้านข้างมีการจัดหัวข้อสิ่งที่ขายเป็นหมวดหมู่ให้เลือกซื้อกันได้ง่ายขึ้น)
การขายสินค้าและบริการบน Social Media ดีกับแบรนด์ที่มีเรื่องราว เพราะ Content ของเราถูกแชร์ได้ง่าย หลายร้านออนไลน์ตอนนี้ก็เริ่มต้นมาจากความชอบ ความสนใจส่วนตัว อาทิ ร้านสำรับใหญ่ จากผู้บริหารงานแสดงละครเวทีที่ผันตัวมาขายขนมไทย (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) ในขณะที่การขายของทั่วไป อาทิ เคสโทรศัพท์มือถือ ขนมที่มีขายตามร้านค้า ของใช้ในครัวเรือน ก็อาจจะเหมาะกับแพลตฟอร์ม E-Commerce มากกว่า ที่คนหาสินค้าเจอได้ง่าย อ่านสรรพคุณเสร็จแล้วตัดสินใจซื้อได้เลย
(แบรนด์ Trick A Treat ขายเค้กแครอทบท Facebook โดยใช้วิธีการขายแบบมีเรื่องราวประกอบ)
(การขายสินค้าของใช้ทั่วไป บอกคุณสมบัติของสินค้าไว้ชัดเจน และสินค้ามีพร้อมส่ง ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ทันทีบน Lazada)
ตัวอย่างสินค้าที่ขายดีบนแพลตฟอร์ม E-Commerce
• เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ราคาไม่สูงมาก ก็ทำให้คนตัดสินใจซื้อได้ง่าย
• สินค้าป้องกันเชื้อโรค เช่น หน้ากากผ้า สายคล้องหน้ากาก แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ
• ส่วนเสริมของอุปกรณ์ไอที เช่น เคสกันกระแทก ฟิล์มกันรอย
• อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เช่น ไฟประดับ วอลเปเปอร์
• ของใช้ประจำวัน เช่น เครื่องสำอาง ผ้าอ้อม ผ้าอนามัย
(สินค้าขายดีช่วงธันวาคม 2020 บน Shopee)
ทั้งนี้ ถ้าจะขายของบน Shopee ต้องใช้บัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินด้วย (อ่านเพิ่มเติมที่นี่) หรือถ้าเป็น Lazada ต้องสร้างบัญชีแล้วต้องยืนยันตัวตนและบัญชีธนาคาร ภายใน 96 ชั่วโมง หากเป็นรูปแบบบริษัทต้องมีเอกสารราชการด้วย ได้แก่ ภ.พ.20 และหนังสือรับรองนิติบุคคลด้วย (อ่านเพิ่มเติมที่นี่)
อยากขายของแต่ไม่อยากสต็อกของทำได้ไหม?
มีงานขายของแบบ Dropship ผ่านแพลตฟอร์ม Youpik.in.th ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มลูกจาก Lazada งานขายของแบบนี้ไม่ต้องสต็อกของ แต่ทำงานคล้ายเป็นเซลล์แมนผสม Influencers จากการเลือกของมารีวิวหรือแนะนำต่อพร้อมแนบลิงก์เข้าไปซื้อของเหล่านั้น หากใครมาดูรีวิวของเราแล้วกดลิงก์ของเราเข้าไปซื้อของ เราก็จะได้รับส่วนแบ่งเหมือนค่านายหน้าด้วย
ทั้งนี้งานขายของออนไลน์เหล่านี้ มีเทคนิคในการทำการตลาดและโฆษณาแตกต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น แพลตฟอร์ม Social Media มีฟีเจอร์สำหรับ Boost Post เพื่อการโฆษณา งานขายบน Lazada และ Shopee มีช่องทางให้ Live ขายของสำหรับคนที่พูดเก่งชอบงานพรีเซ้นต์ชอบอธิบาย
สำหรับผู้ที่ต้องการจะสร้างแบรนด์และเริ่มต้นการเป็น SME สามารถขอคำแนะนำในการทำการตลาดออนไลน์กับทีม UNBOX ได้นะครับ
Contributor
Karn Triamsiriworakul
Learned about reasoning from the school of law but landed job in marketing field to work toward his interest in art and psychology.
