ถ้าลองนึกถึงเมื่อหลายปีก่อน ธุรกิจส่งอาหาร นั้นจะถูกลิมิตไว้กับ Restaurant Chain ใหญ่ๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ ด้วยการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในวงการดิจิทัล และตลาด E-Commerce ทำให้ผู้บริโภคสามารถสั่งอาหารจากร้านไหนก็ได้ผ่านทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือที่เรารู้จักกันดีว่า ธุรกิจส่งอาหาร (Food Delivery) ที่มีผู้เล่นเข้ามาให้บริการด้วยโปรโมชั่นที่แตกต่างกันออกไป และด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ที่ร้านอาหารไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ ทำให้ธุรกิจส่งอาหารนั้นเติบโตสูงขึ้นมาก
ทีมงาน UNBOX BKK จะมาอธิบายถึงสาเหตุที่ธุรกิจส่งอาหารเติบโตได้เร็ว และวิธีการปรับตัวเบื้องต้น สำหรับร้านอาหาร เพื่อเป็นแนวทางในการปรับตัวในสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ค่ะ
สถิติการเติบโตของธุรกิจส่งอาหาร (Food Delivery)
เมื่อ ธุรกิจส่งอาหาร นั้นกลายเป็นโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่าคนไทยรักสบาย! ต้องการหลีกเลี่ยงสภาพการจราจรติดขัด และมลพิษอย่าง PM 2.5 ข้างนอก
จากการสำรวจสถิติการเติบโตของธุรกิจส่งอาหาร Kasikorn Research Center ในประเทศไทย พบว่าในปี 2019 ธุรกิจส่งอาหารเติบโตกว่า 14% ต่อปี โดยถือเป็น 8% ของสัดส่วนรายได้ของร้านอาหารเลยทีเดียว และในปัจจุบันนี้ผู้ให้บริการเริ่มทำการขยับขยายการให้บริการออกไปต่างจังหวัด หรือตามหัวเมืองใหญ่ๆ อีกด้วย
3 เหตุผลที่ธุรกิจส่งอาหารเติบโตอย่างต่อเนื่อง
1. ตัวเลือกของร้านอาหารที่หลากหลาย
ไม่กี่ปีก่อน เมื่อเราต้องการสั่งอาหารจากร้านอาหาร Chain ใหญ่ๆ ที่มีเปิดบริการ Delivery นั้น ลูกค้าจะต้องสั่งอาหารผ่านทางโทรศัพท์ เว็ปไซต์ หรือ LINE ของร้านเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วก็สะดวกสบายดี แต่เราจะต้องหาข้อมูลด้วยตัวเองว่ามีร้านไหนบ้างนะที่มีบริการส่งอาหาร แต่เมื่อมี Application ส่งอาหารแล้ว ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้ออาหารจากร้านอาหารที่หลากหลาย โดยสามารถดูเมนู อ่านรีวิว และเช็คค่าส่งได้ตามระยะทางอีกด้วย
2. โปรโมชั่นโดนใจ
1 แถม 1 วันนี้เท่านั้น! ลด 80% ไปเลย! ค่าส่ง 10 บาททุกร้าน! ใครเคยสั่งอาหารเพราะเห็นโปรโมชั่นเหล่านี้บ้าง? แอพส่งอาหารจะส่งโปรโมชั่นเป็น Notification เข้ามาใน Smartphone ของเราเพื่อกระตุ้นการใช้งานของลูกค้า (ชอบส่งมาตอนหิวๆด้วย) และเพื่อเป็นการแข่งขันกันระหว่างผู้ให้บริการ บางโปรโมชั่นก็มีแค่ในแอพนี้แอพเดียวเท่านั้น
3. ลูกค้าสามารถ Track การส่งอาหารได้แบบ Real Time
สำหรับผู้บริโภคนั้น ความโปร่งใสในการให้บริการถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยสร้างประสบการณ์ (User Experience) ที่ดีได้ และแอปพลิเคชั่นส่งอาหารมีสิ่งนี้! ไม่ว่าจะเป็นค่าส่งตามจริง ระยะเวลาในการจัดส่ง การติดตามระยะทางการส่งอาหารของผู้ส่ง ที่สำคัญการมีฟีเจอร์ Chat ระหว่างผู้ส่งอาหารกับผู้สั่งซื้อก็เป็นสิ่งที่สะดวกมากๆ
[/et_pb_text][et_pb_image src=”https://www.unboxbkk.com/wp-content/uploads/2020/04/Food-Delivery-1.jpg” align=”center” _builder_version=”4.4.3″][/et_pb_image][et_pb_text _builder_version=”4.4.3″ text_font=”Thai Regular||||||||” text_text_color=”#666666″ text_font_size=”22px” text_letter_spacing=”1px” text_line_height=”1.3em” header_font=”Thai Regular||||||||” header_text_color=”#333399″ header_2_font=”Thai Regular||||||||” header_2_text_color=”#333399″ header_2_font_size=”28px” header_3_font=”Thai Regular||||||||” header_3_text_color=”#333399″ header_3_font_size=”26px” header_4_font=”Thai Regular||||||||” header_4_text_color=”#333399″ header_4_font_size=”24px” header_5_font=”Thai Regular||||||||” header_5_text_color=”#333399″ header_5_font_size=”21px” header_6_font=”Thai Regular||||||||” header_6_font_size=”18px” background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat”]
แล้วร้านอาหารควรปรับตัวอย่างไร เมื่อธุรกิจส่งอาหารกำลังเติบโต
1. ลดระยะเวลาการเตรียมอาหาร สำหรับอาหาร Delivery
หนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำร้านอาหารคือ ต้อง Deal กับความหิวของลูกค้าให้ได้ หากลูกค้าได้รับอาหารช้าเกินไป อาจจะเกิดการโมโหหิว และจะเกิดการ Complain ตามมา ดังนั้นก็คงจะดีถ้าร้านอาหารใช้เวลาการปรุง การแพค และจัดส่งถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องคำนวณระยะเวลาแต่ละขั้นตอนให้พอดี แต่อย่างไรก็ตาม การรักษามาตรฐานของการเตรียมอาหารและแพ็คเกจก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญและไม่ควรละเลยเช่นกัน
บางร้านอาหารเลือกที่จะมีเมนูสำหรับการ Delivery โดยเฉพาะ ก็น่าสนใจดีค่ะ
2. จัดแต่งหน้าร้านใน Platform ให้สวยงาม
หน้าร้านอาหารของเราสวยงามอย่างไร หน้าร้านในแอปพลิเคชั่นส่งอาหารก็ต้องสวยงามเช่นเดียวกัน สำหรับการสั่งอาหารออนไลน์แล้ว ลูกค้าต้องการเห็นรูปอาหารจริงอย่างชัดเจน ชื่อเมนู และราคา ร้านอาหารที่มีการจัดแต่งหรือใส่เมนูอาหารพร้อมราคาให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานง่ายนั้น ถือว่าคุณประสบความสำเร็จในด้าน User Experience แล้วค่ะ ช่วงแรกอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน
3. ใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่นใน Platform
อย่างที่ทราบกันว่าโปรโมชั่นสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากมาย นอกจากโปรโมชั่นค่าส่งแล้ว โปรโมชั่นการจัดเซ็ทเมนู สำหรับ 1-2 คน ไปจนถึง 4-5 คนขึ้นไปนั้นถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม และถ้าหากคุณมีธุรกิจร้านอาหารที่เป็นหม้อไฟ หรือสุกี้แล้ว อาจจะเป็นเรื่องยากที่ผู้บริโภคจะมีอุปกรณ์อย่างหม้อสุกี้ หรือหม้อไฟชาบู ดังนั้นการปรับตัวด้วยการใส่เมนู Ready-to-Eat เข้าไปและจัดโปรโมชั่นเพื่อโปรโมทเมนูนั้นๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีเลย
นอกเหนือจากนี้ ผู้ให้บริการบาง Platform เปิดให้ทำโปรโมชั่นเกี่ยวกับเมนูพิเศษที่มีขายบนเฉพาะ Platform นั้นโดยเฉพาะ ร้านอาหารอาจจะต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ออก Special Menu มาขายแล้วค่ะ
สรุป
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่เกี่ยวข้องกันสถานการณ์ไวรัส COVID-19 หรือไม่ ธุรกิจส่งอาหารนั้นก็ยังมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ดี ดังนั้นผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ ควรปรับตัวตั้งแต่วันนี้ และเตรียมพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลานะคะ นอกจากการโปรโมทร้านอาหารและเมนูเด็ดของคุณผ่านแอปพลิเคชั่นการส่งอาหารแล้ว การทำ Content ผ่านทาง Social Media ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้แบรนด์ร้านอาหารของคุณมีความน่าเชื่อถือ และนำมาซึ่งยอดขายปังๆเช่นกันค่ะ
(ขายของ 2 บรรทัด ถ้าหากคุณเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำธุรกิจร้านอาหารอยู่ แล้วยังไม่มีความมั่นใจในการทำ Content หรือการยิงโฆษณาโปรโมทร้านอาหารแล้วลองคลิกที่นี่ได้เลยค่ะ )
Contributor
Katina Rinsawad
Considered herself as a Digital Nerd. Full time digital marketer and freelance business consultant for SMEs. 70% of her life is spent in digital world while the remaining 30% is with luggages, boarding passes, and 2 cameras.