ถ้าพูดถึงโฆษณาแล้ว เรามักจะนึกถึงโฆษณาที่สั้น กระชับได้ใจความ ผู้ชมจะใช้เวลาไม่มากในการรับสารและจดจำสิ่งที่เราต้องการจะโฆษณาได้ แต่ The Oppenheim Group Real Estate (O Group) บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในมหานคร ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา คิดในทางที่ต่างออกไป
เพราะในทุกปีตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา พวกเขาทำโฆษณาเกี่ยวกับเรื่องราวภายในบริษัทของพวกเขา ความยาว 4-5 ชั่วโมง ออกมาหั่นมันเป็นตอนตอน ความยาวตอนละ 29-46 นาที เรียกมันว่า “เรียลลิตี้ โชว์ (Reality Show)” แล้วผู้ชมก็ติดตามดูโฆษณาของพวกเขาตั้งแต่ต้นจนจบ
Reality Show ของ The Oppenheim Group ชื่อว่า Selling Sunset ออกฉายทางสตรีมมิ่งแอปพลิเคชั่น Netflix ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับงานขายสินทรัพย์มูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐในเมือง Los Angeles ของพวกเขา เพราะตอนนี้โฆษณาของเขาเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก และผู้คนก็สามารถรับชมซีรี่ส์เรื่องนี้ได้ไม่ยากด้วย
(ฝาแฝด Jason และ Brett Oppenheim เจ้าของธุรกิจ The Oppenheim Groupและสาว ๆ ผู้ประกอบอาชีพนายหน้าในบริษัทของพวกเขา)
การทำโฆษณาบ้านผ่านรายการ Reality Show
ในซีรี่ส์ Selling Sunset กล้องจะตามถ่ายสาวๆ นายหน้า (Agent) ของ The Oppenheim Group ไปเปิดบ้านและคฤหาสน์อลังการในเมือง Los Angeles ราคาหลายสิบล้านบาทไปจนถึงหลักพันล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าบ้านเหล่านี้ขายตัวเองด้วยสไตล์และความหรูหราอยู่แล้ว แทบไม่ต่างกับสารคดีพาชมบ้านสวย
(บ้านราคาประมาณ 108 ล้านบาท เท่านั้นเอง)
แต่สิ่งที่ทำให้ Selling Sunset เป็นมากกว่าสารคดีพาชมบ้าน ก็เพราะมีการติดตามเรื่องชีวิตส่วนตัวและความสัมพันธ์ของสาวๆ ในออฟฟิศของ The Oppenheim Group ด้วย ซึ่งก็เป็นธรรมดาถ้าผู้ที่ชอบเสพดราม่าและความบันเทิงจะชื่นชอบซีรีส์นี้กัน
สาวๆ นายหน้าจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากบ้านหลังที่เธอขายได้ ซึ่งแต่ละหลังให้ค่าคอมมิชชั่นหลักล้านบาท กลายเป็นว่าแม้พวกเธอจะอยู่ในบริษัทเดียวกัน แต่ก็มีบรรยากาศแบบการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งที่ลักษณะความสัมพันธ์ออกไปทางผู้เข้าแข่งขันรายการโชว์แบบ The Bachelor หรือ The Apprentice ที่มีการจิกกัดกันระหว่างตัวละคร (หรือผู้เข้าแข่งขัน)
ซีรี่ส์ยังมีการนำเสนอเรื่องราวชีวิตส่วนตัว ความรัก ความสัมพันธ์ เช่น มีแฟนที่อายุต่างกันมาก แฟนอยู่คนละประเทศ ซึ่งผู้ชมก็ติดตามดูว่าพวกเธอจะจัดการหรือจะผ่านเรื่องราวเหล่านี้ไปได้อย่างไร
(ความสัมพันธ์ของผู้หญิงอายุ 37 ปี กับผู้ชายอายุ 25 ปี ที่สำหรับหลายคนคงเป็นประเด็นที่น่าติดตาม)
สอดแทรกความรู้เรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ซีรี่ส์นี้ไม่ได้เพียงขายบ้านเท่านั้น แต่ผู้ชมยังได้รับความรู้เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบที่เข้าใจง่ายอีกด้วย แน่นอนว่าสิ่งนี้สร้างความประทับใจให้ผู้ชมจากหลากหลายประเทศและอาชีพได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่นฉากที่ Jason เข้าไปช่วยคุมงานก่อสร้างของบ้านลูกค้า ใครจะไปทราบว่าอาชีพนายหน้าขายบ้านจะต้องคุมงานก่อสร้างด้วย, การทำงานกับนักออกแบบภายใน, การแบ่งเงินค่านายหน้าในการขายบ้าน, การตลาดดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับ E-mail Marketing เป็นส่วนใหญ่, ค่าแรงต่อชั่วโมงของช่างก่อสร้างในประเทศอเมริกาที่สูงลิบ ที่ส่งผลต่อต้นทุน, หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวอเมริกันในการซื้อบ้านที่แตกต่างจากประเทศในแถบเอเชีย
(คริสทีนจัดงาน Open House บ้านของลูกค้า โดยมี Concept งานคือ Burgers and Botox มีผู้สนใจมาดูบ้านมากมายโดยเฉพาะนายหน้าขายบ้าน และสามารถปิดการขายบ้านหลังนี้ได้ด้วยราคาดี)
ความสำเร็จของ Selling Sunset
อาจจะบอกยากว่าซีรี่ส์เรื่องนี้มีส่วนที่เป็นความจริงหรือจัดฉากเพียงใด แต่ที่แน่ๆ Selling Sunset ทำให้ The Oppenheim Group เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น สื่อต่างๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกเขา เพราะตอนนี้แก๊งค์นี้ก็เข้าไปอยู่ในวงการบันเทิงในสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย รวมถึงตอนที่ Orlando Bloom นักแสดงฮอลลีวู้ด ประกาศขายบ้านในลอสแอนเจลิส ราคา 9 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตั้ง The Oppenheim Group เป็นนายหน้าขายบ้านของเขา สื่อก็ให้ความสนใจ เพราะเป็นการร่วมงานของ 2 ฝ่ายที่มีชื่อเสียงในสังคมทั้งคู่
(Washington Post, LA Times, Marie Claire พากันทำข่าว เพราะเรื่องนี้น่าจะเป็นที่สนใจของผู้คน จากทั้งแฟนฝั่ง Orlando Bloom และซีรี่ส์ Selling Sunset)
การได้พื้นที่สื่อเพิ่มขึ้นทำให้ The Oppenheim Group เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก (รวมถึงประเทศไทยด้วย!) ซึ่งเป็นข้อดีกับธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มาก เพราะการจะหาเศรษฐีสักคนมาซื้อบ้านราคาสูงหลักหลายล้านบาทในลอสแอนเจลิส ลำพังแค่เศรษฐีในสหรัฐอเมริกาอาจจะไม่พอ แต่ตอนนี้บ้านหลายหลังที่ The Oppenheim Group รับเป็นนายหน้าให้ ได้ถูกสตรีมไปทั่วโลก และบ้านใหม่ๆที่ลูกค้านำมาขาย ก็จะนำมาฉายในซีรี่ส์เพิ่มทุกปีเมื่อซีรี่ส์ออกซีซั่นใหม่
Selling Sunset ออกอากาศมาแล้ว 3 ซีซั่นและขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำซีซั่นที่ 4 ซึ่งควรจะมีกำหนดฉายในปี 2022 มีผู้ชมหลักจากประเทศเยอรมัน แคนาดา สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ไปถึงจีนและเกาหลีใต้ โดยในซีซั่นที่ 2 รายการติด 10 อันดับโชว์ที่มีผู้รับชมมากที่สุดของ Netflix สหราชอาณาจักร
(The Oppenheim Group ซื้อป้ายบิลบอร์ดเพื่อโฆษณาเรียลลิตี้ โชว์ของพวกเขาด้วย)
ไม่มีการเปิดเผยว่า ตัวละคร (หรือนักแสดง) ภายใน Selling Sunset ได้รับค่าตอบแทนเพียงใดจากซีรี่ส์นี้ แต่ทุกคนก็เหมือนจะได้รับชื่อเสียงไปเป็นที่แน่นอนแล้ว ตามที่เห็นได้จาก Instagram ของสาวๆ ที่มีผู้ติดตาม มากกว่า 1 ล้านคนไปแล้ว
นี่อาจจะเป็นอีกขั้นของ Product Placement ก็ว่าได้ เพราะแทนที่จะมีเรื่องราวละครมาก่อน แล้วเอาของที่อยากโฆษณามาใส่ อันนี้ตั้งของที่อยากจะโฆษณาก่อนแล้วค่อยสร้างเรื่องราว ใส่ดราม่าเข้ามาล้อมรอบโฆษณานั้น นับว่าเป็นการทำโฆษณาอย่างไม่ธรรมดา แต่ในเมื่อธุรกิจของเขากำลังพูดถึงสินทรัพย์ราคาระดับกว่าร้อยล้านบาท การลงทุนทำโฆษณาระดับนี้ก็คงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
Contributor
Karn Triamsiriworakul
Learned about reasoning from the school of law but landed job in marketing field to work toward his interest in art and psychology.