A/B Testing หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Split Test เป็นหนึ่งใน Buzzword ที่นักการตลาดและ Website Developers ต้องเคยผ่านตากันมาอย่างแน่นอน วันนี้ UNBOX จะมาอธิบายให้เข้าใจและปรับใช้ได้ง่ายขึ้น
A/B Testing คืออะไร?
คือกระบวนการทดสอบว่าตัวแปรไหน (Factor) หรือ องค์ประกอบใด (Element) ที่ส่งผลให้สิ่งที่เรากำลังทำนั้นประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น (Conversion) หรือจะจำง่ายๆว่า เปลี่ยนตัวแปร > ทดสอบ > วัดผล
ตัวอย่างการทำ A/B Testing บน Website
สมมติว่าเราอยากจะ Optimize “Conversion Rate” ของหน้า Subscribe ใน Website และเราเลือกตัวแปรเป็น “ข้อความในปุ่ม CTA (Call to Action)” ซึ่งเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้กัน โดยปกติแล้วปุ่มนี้จะใช้คำว่า “รับข่าวสาร”
ทีนี้โจทย์ก็คือเราอยากจะทดสอบว่าถ้าเปลี่ยนข้อความในปุ่มจากคำว่า “รับข่าวสาร” เป็นคำว่า “ติดตามเราวันนี้ รับส่วนลดทันที 10%” เพื่อดูว่าข้อความแบบใดที่จะทำให้คนกดมากที่สุด
วิธีการทำ:
1) ตั้งชื่อ Subscribe Page ในหลังบ้านของ Website ว่า Subscribe Version A และเก็บทุกอย่างไว้เหมือนเดิม
2) Duplicate Page ตั้งชื่อใหม่ว่า Subscribe Version B แต่สิ่งที่ต่างจากเดิมคือเราจะเปลี่ยนข้อความในปุ่มเป็น “ติดตามเราวันนี้ รับส่วนลดทันที 10%”
3) ให้ระบบแบบ Traffic (จำนวนคนที่เข้ามา) เป็น 50% ไปหน้า A และอีก 50% ไปหน้า B
4) หลังจาก 1-2 สัปดาห์ให้กลับมาดูผลว่า Conversion Rate ของหน้า A หรือ B ดีกว่ากัน
5) สามารถทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อหาคำหรือประโยคที่มี Conversion Rate มากที่สุด
Tips: สมมติว่าถ้าบริษัทไม่ได้ซีเรียสเรื่อง Branding มาก อาจจะลองเปลี่ยนสิ่งง่ายๆ อย่างสีปุ่มก่อนก็ได้
ตัวอย่างการทำ A/B Testing สำหรับ Facebook Ads
ทฤษฏีเดียวกันกับของเว็บเลย สมมติว่าเราทำ Facebook Ads และเลือก Campaign Objective เป็น Messages เราก็เลือกตัวแปร “ข้อความในปุ่ม CTA (Call to Action)” เหมือนเดิม ทั้งนี้ความน่ารักของ Facebook คือเราไม่สามารถเปลี่ยนชื่อปุ่มได้ แต่อย่างน้อยระบบยังให้ใส่ข้อความข้างๆปุ่มได้
วิธีการทำ:
1) สร้าง Campaign > Ad Set > Ad ตามปกติ
2) Version A เราจะใช้ข้อความข้างๆปุ่มว่า “ทักเลยพร้อมตอบ”
3) Duplicate Ad มาให้และตั้งชื่อเป็น Version B พร้อมเปลี่ยนข้อความข้างๆปุ่มว่า “ส่วนลดเพิ่ม 5%”
4) หลังจาก 1-2 สัปดาห์ กลับมาดูผลว่าคนส่งข้อความทาง Facebook Inbox มาจากการเห็นปุ่มไหนมากกว่ากัน
Tips: ลองเปลี่ยนอย่างอื่นดูก็ได้ เช่น เปลี่ยนรูป หรือเปลี่ยนข้อความในรูป เป็นต้น
นอกจาก Facebook Ads และ Website ตามตัวอย่างที่ยกมา เรายังสามารถปรับการใช้ A/B Testing ให้เข้ากับแผนการตลาดได้อีกนะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังตามหาว่า A/B Testing คืออะไร ทาง UNBOX เชื่อว่าทำไปเรื่อยๆ จากมือใหม่ยังไงก็คล่องขึ้นแน่นอน